ความสม่ำเสมอ สำคัญกว่ากำไรเรื่องที่มืออาชีพรู้กัน

แม้ว่าการทำกำไรในการเทรดนั้นเป็นเป้าหมายหลักที่คุณ แต่ความสม่ำเสมอยังเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างมากที่คุณควรใส่ใจในการเทรด เพราะมันช่วยให้คุณลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการขาดทุนมากขึ้น และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว

ความสม่ำเสมอสามารถประกอบได้ด้วยหลายปัจจัย เช่น การวางแผนการเทรดที่รอบคอบและครบถ้วน, การควบคุมอารมณ์ขณะเทรด, การใช้วิเคราะห์ทางเทคนิคและการทบทวนผลการเทรด เป็นต้น การมีระบบการเทรดที่มั่นคงและทดสอบด้วยข้อมูลประวัติเป็นสิ่งสำคัญเพื่อสร้างความสม่ำเสมอในการเทรดของคุณและลดความเสี่ยงในการขาดทุน

ที่สำคัญคือ การรับรู้ว่าการมีความสม่ำเสมอไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งใดครั้งนึ่ง แต่เป็นกระบวนการที่ต้องพัฒนาและปรับปรุงตลอดเวลาเพื่อประสบความสำเร็จในการเทรดในระยะยาว

เล่าความรู้สั้นๆ ฉบับที่2 “รวยก่อนอายุ 40 “

วันนี้จะเอาเกล็ดความรู้ดีๆ จากหนังสือ รวยก่อนอายุ 40 คู่มือขั้นยอดความร่ำรวย มาเล่าให้คุณอ่านกันนะครับ

ผู้เขียน : Paz ltzhaki Weinberger

ทุกคนหวังว่าจะร่ำรวย เพราะความร่ำรวย เพราะ ความร่ำรวยนำมาซึ่งความสุข

แต่ความร่ำรวยนั้นจะได้มาไม่ง่าย การขยันทำงานเพียงอย่างเดียวไม่สามารถที่จะได้มาซึ่งความร่ำรวย เพราะ ปัจจัยแห่งความร่ำรวยมีหลายอย่าง เช่น คน connection สื่อสาร โอกาส เป็นต้น

มันจะเป็นเรื่องง่ายในมากในการที่คุณจะรวย หากถ้าคุณเกิดมารวยอยู่แล้ว หรือ ถูกรางวัลที่ 1

แต่มันมีโอกาสน้อยมาก สำหรับคนธรรมดาแบบเราๆ !
เราก็ไม่สามารถเลือกเกิดได้ !

เพราะฉะนั้นหากเราอยากรวย จงวางแผนสู่ความร่ำรวยด้วยมือเราเอง ผู้เขียนแนะนำเครื่องมือที่จะทำให้เราเพิ่มโอกาสความสำเร็จ มาลองดูกันครับ

เครื่องมือที่ 1 ประกัน กับสิ่งที่มันสำคัญกับตัวคุณ

การทำประกันเขามองว่าการเสียเงินจำนวนน้อยเพื่อรักษาเงินจำนวนมาก เขามองว่าการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของผู้คนจะมีความเสี่ยงเข้ามาเสมอ ยกตัวอย่าง ชายคนนึง อายุ 35 ปี มีสุขภาพดี ทำงานเก่ง และเข้ามีคอนโด และเงินเก็บพอสมควร เข้าสามารถหยุดทำงานได้ 2-3 ปี หากเกิดกรณี คอนโด ไฟฟ้า ซึ่งทำให้ความมั่นคงเขาเปลี่ยนไปเลยนะ เขาต้องถอยกลับไป 15 ปีก่อนที่ทำงานอย่างขยัน เพื่อให้ได้เงินมาเพื่อซื้อคอนโด แค่คิดก็เหนื่อยแล้วถูกไหมครับ ผู้เขียนแนะนำว่าเอารายได้ 5% ประกันประเภทต่างๆเพื่อประกัน สินทรัพย์ ที่มันมีอิทธิผลต่อ การดำเนินชีวิตของคุณ

เครื่องมือที่ 2 คิดถึงวันที่เราจากโลกนี้ไป

การเข้าใจและการยอมรับมัน คือกุญแจแห่งความสำเร็จ เพราะหากเรามีแนวทางความคิดที่ว่าเกิดมาแล้ว ชีวิตเราต้องการทำอะไร เราไม่ได้อยู่โลกนี้ไปตลอด สิ่งนี้จะทำให้เรากล้า กล้าที่จะทำ เราควรกล้าในสิ่งที่จำเป็น กล้าเสี่ยงกับที่สิ่งที่จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น นี้คือ ความหมายที่ผู้เขียนอยากสื่อถึง

เครื่องมือที่ 3 First Impression

หากเรายังอยู่ในโลกของมนุษย์ คุณต้องยอมรับก่อนว่า มนุษย์ตัดสินกันที่รูปลักษณ์ภายนอกเป็นส่วนใหญ่ คุณเก่งแค่ไหนก็ตามหากคุณไม่มี First Impression คุณจะเสียเปรียบมาก เพราะมันจะนำมาซึ่ง connection ที่เราจะสามารถต่อยอดให้กับเราได้ เราจะยกระดับอย่างไร เช่น การแต่งกายที่ดี ,รอยยิ้ม ที่จริงใจ , กล่าวทักทาย อย่างสุภาพ , การแสดงกิริยาเหมาะสม , การพูดจาฉะฉาน การที่เราพูดจาฉะฉานมั่นใจ , การมีทัศนคติดี , การคุยเน้การให้ก่อนแล้วจึงรับ และที่สำคัญ คุณต้องวางแผนก่อนไปพบปะ

เครื่องมือที่ 4 เก่งเรื่องคน

การมีคนที่คอยช่วยเราได้ การจับกลุ่มคนที่มีคุณภาพ เสริมจุดอ่อนของตัวเอง การหาตัวช่วยดีกว่าการทำงานคนเดียว

บุคคลที่น่าสนใจหาให้แนะนำ และวิธีมองคนให้มองที่คุณสมบัติพิเศษบางอย่าง เช่น สายตายาวไกลกว่าคุณ ,ใจกว้างกว่าคุณ , หูตาไวกว่าคุณ , มีความมุ่งมั่นมากกว่าคุณ , มีความคิดบรรเจิดมากกว่าคุณ เพื่อนเหล่านี้จะช่วยเป็นแรงผลักดันให้คุณไปต่อได้ไกลขึ้น

เครื่องมือที่ 5 อดทนและรอคอยได้

ความสำเร็จ และ ความร่ำรวยต้องใช่เวลา ความอดทนเป็นคุณสมบัติของคนที่ประสบความสำเร็จต้องมี มีบทความนึงน่าสนใจ Tim Ferriss ( ผู้เขียนหนังสือ ‎The 4-Hour Workweek ) นำเสนอ 6 กิจวัตรประจำวันที่จะช่วยสร้างความอดทนให้กับคุณ

5.1. มองมุมกลับ ปรับมุมมอง
ถ้าหากคุณอยากที่จะมีความอดทนมากขึ้น ก็ควรที่จะใช้เวลาไม่กี่นาทีในทุกๆ วัน ในการปรับมุมมองของตัวเองและวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากอีกมุมหนึ่ง ถ้าหากคุณเป็นเจ้าของกิจการ อาจจะลองปรับมามองจากมุมของพนักงาน หรือถ้าหากคุณเป็นพนักงานก็สามารถที่จะลองมองจากมุมของเจ้าของกิจการดู ลองคิดตามและทำความเข้าใจเหตุผลของฝ่ายตรงข้าม


5.2 วิเคราะห์กิจวัตรประจำวันของตัวเอง

กิจวัตรประจำวันต่อไปที่ควรจะทำคือการวิเคราะห์การกระทำระยะสั้นของเราเพื่อดูว่ามันสอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวของเราหรือไม่ หลายๆ คนนั้นมีความอดทนต่ำหรือไม่ค่อยมีความอดทนเนื่องจากพวกเขานั้นมองไม่เห็นผลลัพธ์ในแต่ละวันที่ตัวเองได้ทำไป ดังนั้นการที่เราถามตัวเองทุกวันว่า “เราได้ทำอะไรในวันนี้เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายระยะยาวของเราแล้วบ้าง?” เราอาจจะได้ทบทวนว่าวันนี้เราทำอะไรไป เราจะเห็นการกระทำของเราในมุมที่กว้างขึ้นและเข้าใจว่าการกระทำของเรานั้นจะต้องใช้เวลาในการที่จะบรรลุเป้าหมายๆ หนึ่ง อย่าไปโฟกัสแต่กับเป้าหมายระยะสั้นๆ หรือต้องทำให้มันสำเร็จเร็วๆ เท่านั้น


5.3 ฝึกความสงบ
ในบางครั้งการฝึกความสงบสั้นๆ ในแต่ละวันนั้นก็ยังช่วยสร้างความอดทนให้กับเรา ไม่ว่าจะเป็นการนั่งสมาธิ การจดบันทึก หรือการเดินระยะสั้นๆ เพื่อให้คุณได้มีเวลาพักจากโลกภายนอกบ้าง
“บางทีมันก็ดีที่สุดสำหรับเราในการที่จะเดินออกมาไม่กี่นาที พักจากสถานการณ์นั้นสัก 5-10 นาที และใช้เวลากับตัวเอง สงบสติอารมณ์ จัดการและวางแผนกับคำพูด การกระทำ และการแก้ปัญหาของตัวเอง” เพราะบางทีการที่เราได้หยุดพักจากวันที่ยุ่งๆ และให้เวลาที่สงบกับตัวเองก็เป็นการช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการฝึกความอดทน


5.4 จัดการกับสิ่งที่ขัดขวางความอดทนของคุณ

ลองหาสิ่งที่คอยขัดขวางความอดทนของคุณในทุกวันๆ และจดบันทึกลงไป ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่ทำให้คุณรู้สึกไม่ดีหรือการกระทำอะไรที่บั่นทอนความอดทนของคุณ และเมื่อคุณรู้แล้วว่าสิ่งใดที่เป็นอุปสรรคต่อความอดทนของคุณ คุณก็จะสามารถขจัดอุปสรรคเหล่านั้นออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังสามารถที่จะโฟกัสกับสิ่งต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย


5.5 ใช้ Stoic Exercise ฝึกความอดทน

บางทีเราก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่เป็นไปตามที่เราคิด ความอดทนจึงต้องนำมาใช้ ซึ่ง Stoic Exercise นั้นก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประโยชน์ในการฝึกความอดทนของเรา
Stoic มีการฝึกแบบหนึ่งที่เรียกว่า “Turning The Obstacle Upside Down” หรือเป็นการมองว่าเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นนั้นกลับเป็นบทเรียนให้กับเรา ซึ่งเป็นการฝึกในเรื่องของมุมมองในการมองสิ่งต่างๆ ในที่เกิดขึ้นแง่บวก เพื่อฝึกให้เรานั้นเกิดความอดทนและใจเย็น


5.6 ดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ

สิ่งสำคัญสิ่งสุดท้ายในการสร้างความอดทนนั่นก็คือการดูแลตัวเองเป็นประจำทุกวัน ในชีวิตที่ค่อนข้างยุ่งของเราหลายๆ คนในปัจจุบัน ทำให้เรานั้นลืมที่จะแบ่งสรรปันส่วนเวลาสำหรับสุขภาพจิตและสุขภาพกายของเราเพื่อไปทำอย่างอื่นที่สำคัญกว่า

เครื่องมือที่ 6 หาการลงทุนที่เหมาะกับตัวท่านเอง

แน่นอนการที่คุณจะเป็นคนร่ำรวย คุณรู้จักทำการเก็บเงินแล้ว คุณต้องหาการลงทุนเพื่อต่อยอด ทำให้คุณร่ำเร็วขึ้นมาระดับนึง อยากใช้คำว่าระดับนึงเพราะการรวยเร้วไม่มีอยู่จริง

ก่อนจะเรียนรู้วิธีการลงทุนรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะกับตัวท่านเอง

เราอาจจะเริ่มก่อนว่าเราลงทุนเพื่ออะไร และเรารับความเสี่ยงจากการลงทุนได้แค่ไหนครับ ซี่งวัตถุประสงค์และความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละคนก็จะต่างกันไป

เช่น หากเราเป็นนักศึกษาจบใหม่อาจจะอยากลองลงทุนดู และเรายังอายุไม่มากสามารถรับความเสี่ยงได้สูงอาจจะเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นก็ได้   แตถ้าเป็นวัยกลางคน เราอาจจะลงทุนแบบปลอดภัยมากขึ้นลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นลง เพิ่มสัดส่วนสินทรัพย์อื่น เช่น ตราสารหนี้มากขึ้น เพราะว่าเรามีภาระต้องดูแลครอบครัว การรับความเสี่ยงอาจจะลดลงและเงินที่เก็บออมมาเริ่มเป็นสัดส่วนที่สูงทำให้เราไม่อยากลงทุนในอะไรที่เสี่ยงมากเพื่อรักษาเงินก้อนนี้ให้อยู่กับเราอย่างมั่นคงโดยต้องการผลตอบแทนอยู่บ้าง หากเราเป็นคนวัยเกษียณเราอาจจะรับความเสี่ยงได้ต่ำก็อาจจะลงทุนเพื่อเงินปันผลหรือลงทุนแค่รักษามูลค่าเงินที่เก็บสะสมมาเท่านั้น อันนี้เป็นเพียงตัวอย่างเบื้องต้นที่จะทำให้เรารู้ว่าเราเหมาะกับการลงทุนแบบไหน ครับ

หวังว่าเพื่อนๆทุกท่านจะได้เอาลองไปปรับใช้กับชีวิตดูนะครับ

Labhoon

หากเพื่อนสนใจเข้าร่วมพูดคุยความรู้ เรื่องการลงทุนในตลาดหุ้น เรามีห้อง line ฟรีให่ได้แลกเปลี่ยนขัดเกลาความคิดและความรู้ เชิญเข้าร่วมฟรีได้เลยครับ

You’ve been invited to join “LABHOON (LOBBY)”. Visit the link below to join the OpenChat.
https://line.me/ti/g2/PaCWGV-_5tbO68OdfO7LF1lNeduVQxnGA-Vpcg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

แคมเปญพิเศษ!! สมัครสมาชิก💸Labhoonplus แบบ Gold หรือ Plattinum (วันนี้-9 ต.ค. 2566)
🟢 แจกบัตรรับชมงามสัมนา The Secret Sauce Summit 2023: Infinite Growth ธุรกิจพุ่งทะยานในความเปลี่ยนแปลง มูลค่า 590 บาท .
🟢 พร้อมฟรี เอกสารความรู้ดีๆ Marketing Trend 2024 .”

🏆”The Secret Sauce Summit 2023 เป็นอีเวนต์สำหรับผู้ประกอบการและนักธุรกิจที่ใหญ่และครบที่สุด กับธีมปี 2023 ที่ชื่อว่า Infinite Growth ธุรกิจพุ่งทะยานในความเปลี่ยนแปลง ในงานเดียวจะได้พบกับ

Conference เจาะลึก Insight อัปเดตทุกเทรนด์ธุรกิจ 2024 เวทีแรก! รวมเทรนด์ธุรกิจปี 2024 ครบทุกมิติสำคัญ เช่น เทรนด์เศรษฐกิจ เทรนด์กลยุทธ์ เทรนด์การตลาด เทรนด์เทคโนโลยี เทรนด์บริหารคน เทรนด์ความยั่งยืน แจกฟรี! เฟรมเวิร์กปรับใช้ต่อได้ทันที

แชร์เคสความสำเร็จจากผู้ประกอบการตัวจริง เคสสร้างธุรกิจเติบโตจากผู้ประกอบการตัวจริง ทำจริง เจ็บจริง สำเร็จจริง แชร์จัดเต็มไม่มีกั๊ก ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม หลากบริบทความท้าทาย

เวิร์กช็อป Upskill ผู้ประกอบการศตวรรษที่ 21 Expertise Room ห้องเวิร์กช็อปเจาะลึกเนื้อหา เช่น Carbon Credit, Quantum, Data, กฎหมาย และอีกหลายหัวข้อสำคัญที่ผู้ประกอบการควรรู้ เพื่อติดอาวุธ เสริมทักษะให้คุณพร้อมคว้าทุกโอกาสในโลกแห่งศตวรรษที่ 21

สรุปได้ว่า The Secret Sauce Summit 2023 เป็นงานอีเวนต์ที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการและนักธุรกิจทุกระดับที่ต้องการอัปเดตเทรนด์ธุรกิจล่าสุด เรียนรู้จากเคสความสำเร็จของผู้ประกอบการตัวจริง และเสริมทักษะที่จำเป็นสำหรับโลกศตวรรษที่ 21″

🟢เงื่อนไข รับโปรโมชั่นนี้
สำหรับท่านที่สนใจเข้าร่วมเป็นสมาชิก Labhoonplus (GOLD, PLATINUM) และได้สมัครในช่วงระยะเวลาที่กำหนด (25 กันยายน 2566 ถึง 9 ตุลาคม 2566)

🟢นอกจากนั้นท่านยังได้รับสิทธิ ประโยชน์มากมาก หากสมาชิกกับเรา
-App labhoonplus (scanหุ้นผ่านมือถือ ดูกราฟ และ Indicatorจากทางเรา Gold/Plattinum)
-Communities Telegram & Line VIP (สังคมนักลงทุนคุณภาพ เพื่อพูดคุยและสอบถามทั้งพื้นฐานและกราฟ Gold/Plattinum)
-Stock Watch List by+ trade strategy + Alert (หุ้นรายไตรมาศ +กราฟ ผลBacktest แจ้งเตือนสมาชิก Gold/Plattinum)
-One Special Seminar Per Year (สัมนาสุดพิเศษสำหรับสมาชิก Plattinum)
-Investment knowledge magazine by quarter quarter (ความรุ้ดีๆ พิเศษๆ สำหรับสมาชิก Platinum รายไตรมาศ)

📞สมัครLabhoonplus รายเดือน หรือรายปี มีแบบไหนบ้าง
1.เพคเก็จ gold 1 เดือน 500 หรือ สมัคร 1 ปี 5,700 บาท คุ้มกว่า ตกเดือนละ 475บาท
2.เพคเก็จ Platinum 1 เดือน 900 หรือ สมัคร 1 ปี 8,900 บาท คุ้มกว่า ตกเดือนละ 742บาท
ติดต่อสมัครได้ที่ add line==>> https://lin.ee/1YbWhil

เล่าความรู้สั้นๆ ฉบับที่1 “หากวันนี้ยังไม่แม้แต่หว่านเมล็ดพันธ์ุ อนาคตก็อย่าได้หวังถึงผลลัพธ์ความสำเร็จในชีวิต”

คนรวยทำงานเร็ว คนรวยทำงานเพื่ออนาคต

หากวันนี้คุณยังไม่รวย(เงิน) แต่รวยความคิดอนาคตคุณมีโอกาสรวย กว่าคนที่วันนี้รวย(เงิน) แต่จนทางความคิด

หนังสือเล่มนี้นิยามคนรวย = รวยความคิด ความคิดที่ดีจะดึงดูเงินเข้ามาเองในอนาคต
คนรวย มักทำงานเร็ว

เทคนิคทำงานให้เร็ว มีดังนี้

1.ว่าด้วยเรื่องความคิด

  • ทำงานที่สำคัญก่อน จัดลำดับงานที่จำเป็นเอามาทำก่อน
  • กล้าลองผิดลองถูก ไม่รอคำว่า perfect
  • โฟกัสที่เป้าหมาย หาวิธีอะไรก็ได้เพื่อไปถึงเป้าหมายนั้น
    ถ้าเป้าหมายชัด เดี๋ยววิธีการจะตามมาเอง
  • ทำงานเสร็จแต่เนิ่นๆไม่ทำงานจวนตัว เพราะงานที่จวนตัว
    จะมีคุณภาพน้อยมาก
  • การทำงานเพื่ออนาคต ไม่มีใครบังคับคุณ คุณต้องเลือกและทำมันเอง และถ้าเราไม่เลือก นั้นคือ คุณเลือกที่จะล้มเหลว
  • งานที่สำคัญมันจะบีบให้คุณทำแบบจวนตัว เพราะเวลามันใกล้หมดทุกทีทุกที
  • คนทำงานเร็ว พอเจอปัญหานิ้วเขาจะชี้มาที่ตัวเอง คนทำงานช้าจะชี้นิ้วไปที่คนอื่น สิ่งแวดล้อม หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ใช่ตัวเอง
  • ความล้มเหลวในอดีตนั้นนั้นเป็นเอกลักษณ์ของคนสำเร็จในอนาคต

    2.ว่าด้วยเรื่องสมาธิและบริหารเวลา
  • ค้นหาช่วงเวลาที่เรามีสมาธิ แล้วใช้เวลานั้นทำงานสำคัญ
    อย่าเอาช่วงเวลาที่เรามีสมาธิ ไปตอบchat ไถ่ฟีด
  • จังหวะไหนควรพัก จัดเวลาพักให้เหมาะสม
  • ใส่ใจกับเวลาของเราและผู้อื่นไม่เอาเรื่องไร้สาระมาเผาเวลา
    .
    3.มีมนุษยสัมพันธ์ดี เก่งเรื่องคน
  • คิดถึงเจตนาของอีกฝ่าย ก่อนขอความช่วยเหลือจากคนอื่น
  • สันโดษอย่างมั่นใจ คบหาเพื่อนที่ส่งเสริมความสำเร็จ

4.วิถีชีวิต

  • การนอน นอนมากพอ 8 ชั่วโมงต่อวัน เพราะทำให้เรามีประสิทธิภาพการทำงานมากกว่า
  • เลือกอาหารที่มีคุณภาพ ร่างการที่แข็งแรงเป็นต้นทุนสร้างชีวิตที่ดีในอนาคต
  • เลือกซื้อสิ่งของที่จำเป็น ไม่ตามกระแส จ่ายเพื่อประสิทธิภาพของงาน

Cr โกะโด โทคิโอะ

Labhoon

หากเพื่อนสนใจเข้าร่วมพูดคุยความรู้ เรื่องการลงทุนในตลาดหุ้น เรามีห้อง line ฟรีให่ได้แลกเปลี่ยนขัดเกลาความคิดและความรู้ เชิญเข้าร่วมฟรีได้เลยครับ

You’ve been invited to join “LABHOON (LOBBY)”. Visit the link below to join the OpenChat.
https://line.me/ti/g2/PaCWGV-_5tbO68OdfO7LF1lNeduVQxnGA-Vpcg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

COCOCO หุ้นน้องใหม่ เติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ

หุ้น COCOCO ของบริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นไอพีโอที่กำลังจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 15 กันยายน 2566 นี้ โดยบริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวรายใหญ่ของไทย ภายใต้ตราสินค้า Thaicoco และ Cocoburi ซึ่งจัดจำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศกว่า 90 ประเทศทั่วโลก

โดยมีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ได้แก่

  • ผลิตภัณฑ์กะทิ ได้แก่ กะทิบรรจุกระป๋อง กะทิบรรจุกล่องยูเอชที (UHT) กะทิพาสเจอร์ไรส์
  • ผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว ได้แก่ น้ำมะพร้าวบรรจุกระป๋อง น้ำมะพร้าวบรรจุกล่องยูเอชที (UHT) น้ำมะพร้าวพาสเจอร์ไรส์
  • ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป ได้แก่ ขนมมะพร้าว อาหารสำเร็จรูป
  • ผลิตภัณฑ์เพื่อการอุตสาหกรรม ได้แก่ กะทิผง กะทิอบแห้ง

บริษัทมีฐานการผลิตในประเทศไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยมีช่องทางการจัดจำหน่ายครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 3,381.16 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 302.22 ล้านบาท

ปัจจัยบวกที่ทำให้หุ้น COCOCO น่าสนใจ ได้แก่

  • ธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูง เนื่องจากมะพร้าวเป็นวัตถุดิบที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลก
  • บริษัทมีฐานการผลิตและช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง
  • บริษัทมีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม หุ้น COCOCO ก็มีความเสี่ยงบางประการ ได้แก่

  • การแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ประกอบการรายอื่น
  • การเปลี่ยนแปลงของราคาวัตถุดิบ
  • การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค

เงินที่ได้จากการระดมทุน เพื่อซื้อเครื่องจักร ขยายกำลังการผลิตมะพร้าวเพิ่มเป็น 2.18 แสนตันต่อปี จากเดิม 1.1 แสนตันต่อปี รวมถึงขยายผลิตภัณฑ์ขนมกินเล่นของสุนัขและแมว

ข้อมูลเปรียบเทียบหุ้น COCO และ PLUS ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำสินค้า และ อยู่ในตลาดเดียวกัน

โดยสรุปแล้ว หุ้น COCOCO เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดีและมีโอกาสเติบโตในอนาคต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน (บทความนี้เพื่อกรณีศึกษาเท่านั้น)

หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยของยุโรปร่วงลงอย่างหนัก โดย LVMH ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Louis Vuitton ลดลง 19%

  • หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยของยุโรปร่วงลงอย่างหนัก โดย LVMH ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Louis Vuitton ลดลง 19% ของมูลค่าตลาดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
  • ประธานของ Richemont ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Cartier กล่าวว่า เงินเฟ้อที่สูงกำลังเริ่มส่งผลกระทบต่อความต้องการในยุโรป
  • นักลงทุนกำลังกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าฟุ่มเฟือย
    หุ้นกลุ่มนี้ยังถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น ซึ่งทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเงินของบริษัทสูงขึ้น
  • นักวิเคราะห์บางคนคาดว่าหุ้นกลุ่มนี้อาจร่วงลงอีกในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ดี ยังมีนักวิเคราะห์บางรายที่ยังคงมีมุมมองบวกต่อหุ้นกลุ่มนี้

หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยของยุโรปร่วงลงอย่างหนักในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยดัชนีหุ้น MSCI Europe Textiles Apparel & Luxury Goods Index ร่วงลงกว่า 19% นับตั้งแต่ระดับสูงสุดในเดือนกรกฎาคม 2566

สาเหตุหลักของแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มนี้ ได้แก่

  • เงินเฟ้อที่สูงในยุโรปและจีน ซึ่งทำให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย
  • ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น ซึ่งทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเงินของบริษัทสูงขึ้น

การลดลงของหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยได้ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนรายใหญ่

Bernard Arnault ซีอีโอของ LVMH ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Louis Vuitton สูญเสียตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกให้กับ Francois Pinault ซีอีโอของ Kering ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Gucci

นักวิเคราะห์บางคนคาดว่าหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยอาจร่วงลงอีก

Valerie Gastaldy นักวิเคราะห์เทคนิคกล่าวว่าหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยมีแนวโน้มที่จะร่วงลงอีกในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

สรุป

หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยของยุโรปกำลังเผชิญกับแรงกดดันหลายด้าน ซึ่งอาจทำให้ราคาหุ้นร่วงลงอีกในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

ESG Investing เทรนด์ใหม่การ ลงทฺนระดับโลกที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม

ESG หมายถึง Environmental (สิ่งแวดล้อม), Social (สังคม) และ Governance (บรรษัทภิบาล) ซึ่งเป็นแนวทางหรือมาตรฐานที่ใช่ในการประเมินและติดตามการดำเนินงานของธุรกิจและการลงทุนที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการบริหารบริษัทในทางที่เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยรวม

สิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญ: ปัจจุบันมีความสนใจมากขึ้นในเรื่องสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญหาสิ่งแวดล้อมอื่น กำลังเกิดขึ้น เรื่องนี้มีผลกระทบต่อธุรกิจและการลงทุน

ความเคารพสิทธิมนุษยชน: ESG ยังรวมถึงเรื่องความเคารพสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในการค้าระหว่างประเทศและในโลกธุรกิจที่มีการเชื่อมโยงอย่างแนบแน่น

จริยธรรมและความโปร่งใส: การทำธุรกิจตามหลัก ESG ยังเน้นความจริยธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินกิจการ เป็นมาตรฐานระดับพื้นฐานที่ยึดถือมานาน

ปัจจุบันหลายประเทศเริ่มกำหนดให้ ESG เป็นมาตรฐานและข้อบังคับในการดำเนินงาน
ธุรกิจทั่วโลกจึงต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อมที่กำลังส่งผลกระทบรุนแรงเข้าขั้นวิกฤติ

นักลงทุนที่รู้จักและเข้าใจ ESG ก่อน ย่อมมีความได้เปรียบในการเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่กำลังจะมาถึง

“ESG กลายเป็นกติกาใหม่ในการทำธุรกิจ… นักลงทุนที่รู้จักและเข้าใจ ESGก่อน ย่อมมีความได้เปรียบในการเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่กำลังจะมาถึง”

ทำไม ESG จึงมีความสำคัญ?

สำหรับหลายๆ คน การลงทุน ESG เป็นมากกว่าตัวย่อสามตัว เป็นกระบวนการที่ใช้งานได้จริงในการจัดการและวิธีที่บริษัทให้บริการ ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดเช่น 1.พนักงาน 2.ชุมชน 3.ลูกค้า 4.ผู้ถือหุ้น และ5.สิ่งแวดล้อม

“การระบุผลกระทบทั้งเชิงบวกหรือเชิงลบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งห้านี้เป็นสิ่งที่ควรเป็นมาตรวัดสำหรับการลงทุน ESG ที่มีคุณภาพ

นักลงทุนสถาบันรายใหญ่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญ บริษัทประกันภัย บริษัทหลักรัพย์จัดการกองทุนต่าง ๆ ได้นำ ESG มาเป็นส่วนหนึ่งในต้องตอบคำถามผู้ถือหุ้นและนักลงทุน เช่น การวางกลยุทธ์และแนวทางการบริหารความเสี่ยง ESG เพื่อให้สามารถบริหารจัดการผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและสร้างโอกาสในการเติบโตและแข่งข้นได้ในระยะยาว การลงทุนที่คำนึงถึง ESG จึง

เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเหตุผลส่วนหนึ่งมาจากนักลงทุนรุ่นใหม่ที่สนใจ ESG และเห็นว่า ESG สามารถช่วยบริหารความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน และอาจสร้างโอกาสในการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนได้ในระยะยาว

คะแนน ESG คำนวณอย่างไร

บริษัทวิจัย ESG จัดทำคะแนนให้กับบริษัทต่างๆ มากมาย คะแนนเหล่านี้เป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจนและมีประโยชน์สำหรับการเปรียบเทียบการลงทุนต่างๆ

Bloomberg, S&P Dow Jones Indices, JUST Capital, MSCI และ Refinitivเป็นบริษัทวิจัย ESG บางส่วนที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด โดยทั่วไปคะแนนจะเป็นไปตามระดับ 100 คะแนน: ยิ่งคะแนนสูงเท่าไร บริษัทก็จะยิ่งดำเนินการตามเกณฑ์ ESG ที่แตกต่างกันได้ดีขึ้นเท่านั้น คะแนนอาจแตกต่างกันไปตามบริษัทต่างๆ ซึ่งอาจใช้หน่วยเมตริกและแผนการถ่วงน้ำหนักที่แตกต่างกัน

แม้ว่าปัจจัยเฉพาะที่ได้รับการประเมินจะแตกต่างกันไปตามบริษัท แต่บริษัทจัดอันดับ ESG มักจะตรวจสอบสิ่งต่างๆ เช่น รายงานประจำปี มาตรการความยั่งยืนขององค์กร และโครงสร้างคณะกรรมการ บริษัทจัดอันดับยังพิจารณาการจัดการทรัพยากร พนักงาน ค่าตอบแทน และการเงินด้วย

การเปลี่ยนแปลงของบริษัทระดับโลก(ยักษ์ขยับแล้ว)

บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกไม่ว่าจะเป็น Apple, Microsoft หรือ Facebook รวมถึงบริษัทชื่อดังอย่างเช่น Burger King, Pepsi หรือ Ikea ด่างพร้อมใจวางนโยบายเพื่อตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสุดท้าย Google (Alphabet) บริษัทผู้พัฒนาเสิร์ชเอนจินได้หันมาซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้งหมด 100% เพื่อช่วยผลิตพลังงานสะอาดให้กับบริษัท ครอบคลุมทั้งพลังงานลมและฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ สะท้อนให้เห้นถึงเงินลงทุนที่อาจเข้ามาได้ในอนาคต

แจกฟรี “หนังสือ ลงทุนด้วยกลยุทธ์ Momentum”

ตัวอย่าง “การใช้กลยุทธ์ MomentumแบบBreak Out มีสองวิธีที่ง่ายที่สุดในการค้นหาการตั้งค่าการซื้อขายโมเมนตัมคือการค้นหาการซื้อ breakout trades(ราคาเบรคแนวต้านที่เรากำหนด) หรือใช้ indicator.

มีสองวิธีง่ายๆ ในการระบุโอกาสในการซื้อขายโมเมนตัม: โดยการมองหา momentum breakout trades หรือใช้ indicator .momentum breakoutเกิดขึ้นเมื่อราคาได้เคลื่อนไหวอย่างแข็งแกร่งในทิศทางเดียวแล้วจากนั้นต่อมาจึงเกิดการรวมตัวก่อให้เกิดรูปแบบคล้ายธง หรือกล่อง เมื่อราคาทะลุออกจากรูปแบบนี้ เทรดเดอร์ที่ใช่ระบบโมเมนตัมจะซื้อขายในทิศทางของการทะลุและวิ่งตามโมเมนตัมไปดูกราฟตัวอย่างด้านล่างซึ่งราคาเริ่มสูงขึ้น หยุดชั่วคราวเพื่อรวมตัวในกล่อง จากนั้นแยกออกสูงขึ้น และยังคงโมเมนตัมต่อไป”อ่านฉบับเต็มได้ที่ เพียงแอด LINE แล้วพิมพ์คำว่า “momentum”add line https://lin.ee/1YbWhil

2-3 ปีจากนี้ราคาน้ำตาลมีโอกาสปรับตัวขึ้น

ก่อนหน้านี้มีประเด็นที่น่าสงสัย ราคาน้ำตาลช่่วงที่ผ่านได้รัยผลกระทบจากปรากฎการณ์ธรรมชาติได้มากน้อยเพียงใด เพราะ เคยเฝ้าติดตามราคาช่วงปรากฎการณ์ลานีญา (La Nina)

จากการศึกษาสภาวะฝนและอุณหภูมิของประเทศไทย 50 ปี พบว่าในปีลานีญาปริมาณฝนของประเทศไทยส่วนใหญ่สูงกว่าปกติ ส่วนประเทศฝั่งอเมริกาใต้ก็จะเกิดสภาวะตรงข้ามคือ อากาศร้อน แห้งแล้งกว่าปกติ

บนโลกนี้ น้ำตาลผลิตจากอ้อย คิดเป็นสัดส่วน 77.9% ของผลผลิตน้ำตาลทั้งหมด แหล่งผลิตหลักมาจากประเทศแถบเส้นศูนย์สูตร อาทิ บราซิล และประเทศในเอเชียแปซิฟิก อาทิ อินเดีย และไทย .ผลิตรายใหญ่สุดของโลก คือ อินเดีย (19.1% ของปริมาณการผลิตทั่วโลก) บราซิล (16.4%) สหภาพยุโรป (10.0%) และไทย (8.1%) (ข้อมูลปี 2562)

ราคาน้ำตาลหลักที่เข้าใจราคาขึ้นลงตามผลผลิต supply น้อยราคาย่อมสูงขึ้น ซึ่งผลผลิตน้ำตาลมาจากอ้อย ซึ่งเป็นพืชที่ไม่ชอบภัยแล้ง หรือ ปรากฎการณ์เอลนีโญ

อย่างในช่วงเหตุการณ์ ปี 2015-2017 ราคาน้ำตลาดพุ่งสูงสุด 38% จากปัญหาภัยแล้งรุนแรงในเอเชียและภาวะฝนตกหนักในบราซิล ทำให้ผลผลิตอ้อยเสียหาย ส่งผลให้อุปทานน้ำตาลโลกปี 2016 หดตัว 7.1% อยู่ที่ 165.0 ล้านตัน และ ปี 2020 ผลผลิตน้ำตาลทรายในตลาดโลกหดตัว 7.5% เนื่องจากผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น บราซิล อินเดีย และไทยเผชิญภาวะภัยแล้งรุนแรง รวมถึงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจบางส่วนสะดุดลงชั่วคราว และเกิดความไม่แน่นอนของปริมาณส่งออกน้ำตาลทราย

ผลักดันให้ราคาน้ำตาลทรายดิบโลกแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี ในเดือนกุมภาพันธ์ เฉลี่ยอยู่ที่ 332.2 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน เพิ่มขึ้น 4.3% และ 12.8% จากปีก่อนหน้า ตามลำ.ข่าวช่วงนี้เราจะได้ยินกันเยอะมากๆ 3 ปีนับจากนี้ประเทศเรา และอินเดีย จะต้องเจอกับปัญหาภัยแล้งยาวนาน คำถามเกิดขึ้นในหัวว่า มันจะทำให้ผลผลิตลดลงหรือไม่ และทำให้ราคาน้ำตาลพุ่งสุงไหม? จะได้เตรียมทำการบ้านหุ้นน้ำตาลรอไว้

เพื่อนๆ คิดว่าอย่างไรครับ comment มาบอกกันหน่อย ไว้ผมหาข้อมูลมา share เพิ่มให้ เจอกันที่ Threads นะครับ

https://www.threads.net/@ruklabhoon ฝากกดติดตาม ด้วยนะครับ ใครที่ชอบข้อมูลเชิงลึก เชิงสถิติ#ภัยแล้ง#ลงทุน#ตลาดหุ้น#น้ำตาล#ksl#kbs#brr#หุ้น#ตลาดหุ้น#ลานีญา#เอลนีโญ

สรุปหนังสือ ‘ที่สุดของ VI’ โดย ชาย มโนภาส Part1

…………………………………………………………………………………………………….

3 บทความนับจากนี้ ประกอบด้วย 

PART 1: เรียนรู้

PART 2: แยกแยะ

PART 3: ตกผลึก

…………………………………………………………………

🖊การลงทุนแบบเน้นคุณค่า (VI : Value investment) คือการเดินทางอันยาวนาน ระหว่างทางอาจพบเจอกับอุปสรรคมากมาย รุ่นพี่นักลงทุนผู้หนึ่งเคยกล่าวว่า “สำหรับคนที่บริหารจิตใจตนเองไม่เป็นนั้น การได้มารู้จักตลาดหุ้น อาจเป็นเรื่องโชคร้ายที่สุดในชีวิตของเขา” : ไม้ฟืน : พะเนียง พงษธา🖊

……….

🟥PART 1: เรียนรู้

………

🗞การเดินทาง🗞

การลงทุนเปรียบเสมือนการเดินทาง นักเดินทางสามารถเลือกสรรวิธีการเดินทางได้หลากหลายแบบตามจริตของแต่ละปัจเจกบุคคล เฉกเช่นเดียวกัน หนทางก้าวเดินไปสู่ความมั่งคั่งล้วนหลากหลาย เราจะเลือกแบบใดก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งความชอบส่วนตัว ความสามารถ และองค์ความรู้ บางแนวทางนั้นมีผู้ที่ประสบความสำเร็จมากมาย หากแต่เพียงไม่เหมาะกับตัวเรา เมื่อตัดสินใจอย่างแน่วแน่ในแนวทางและหลักการ หมั่นศึกษาหาความรู้ ฝึกฝนจนชำนาญ เกิดการตกตะกอนของความรู้ ผมเชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นแนวทางใดก็ตามนั้นสามารถนำทางไปสู่ความสำเร็จด้านการลงทุนในที่สุด

…………………………………

🗞อดทน🗞

นักลงทุนที่มีแนวโน้มประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นนั้นต้องอาศัยทั้งความรู้ ความเข้าใจ และความอดทน บางคนเวลาลงทุนชอบใช้ ‘ข้อมูลสำเร็จรูป’ ประเภทที่ว่าบอกชื่อหุ้น บอกแนวรับ แนวต้าน มาเสร็จสรรพ อาจไม่เคยรู้เลยว่าหุ้นที่เข้าซื้อไปนั้นประกอบธุรกิจอะไร ทำมาหากินอย่างไร มองกระบวนการลงทุนเป็นเพียงสัญลักษณ์และตัวเลขวิ่งขึ้นๆลงๆ นักลงทุนประเภทนี้คงยากที่จะพบเจอกับความสำเร็จ อยู่ในตลาดหุ้นมองเห็นแต่เพียงความโลภ จงอย่าลืมว่า “ความอดทนเปรียบเสมือนตัวคูณ”

…………………………………

🗞ความแตกต่าง🗞

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว ล้วนสามารถสร้างความมั่งคั่งได้เสมอ ปัจจัยสำคัญอยู่ที่การคัดเลือกหุ้นเพื่อลงทุน คุณจำเป็นต้องใช้ความรู้ในการวิเคราะห์บริษัท มีความเข้าใจในกิจการและอุตสาหกรรมพอสมควร ไม่ใช่การนึกคิดวาดฝันไปเอง แน่นอนว่าหากเราใส่ความทุ่มเทพยายามไปเท่าไหร่ ขนาดของกำไรที่พอจะคาดหวังได้ก็คงไม่แตกต่างกัน

…………………………………

🗞ถึงนักลงทุนพอร์ตเล็ก🗞

ณ ตลาดหุ้นไทย ผมเชื่อว่ายังมีบริษัทที่ซื้อขายกันในราคาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานอยู่ สำหรับนักลงทุนที่พอร์ตยังเล็ก เงินยังน้อย ก็อย่าเพิ่งถอดใจไปเสียว่าโอกาสทางการลงทุนดีๆคงหมดไปแล้ว เล่นหุ้นเอาสนุกก็พอ คุณควรใส่ใจในรายละเอียดเพื่อค้นหาโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น ผมเชื่อเสมอว่าในโลกแห่งการลงทุน ถ้าเราเริ่มต้นด้วยความยาก เมื่อเวลาผ่านไปจนเกิดเป็นความชำนาญแล้ว กระบวนการลงทุนก็จะมุ่งหน้าไปสู่ความเรียบง่าย ลดความซับซ้อนลงไปมาก หากเราเริ่มต้นชีวิตนักลงทุนด้วยการมองหาความง่าย ใช้อารมณ์เป็นใหญ่ ไม่มีวินัย ไม่แสวงหาความรู้ ความสำเร็จคงเกิดขึ้นได้ยาก

ผู้ที่อยู่ในจุดเริ่มต้นของชีวิตนักลงทุนควรถามตนเองให้ดีก่อนว่า “เราจะเอาอะไรไปสู้กับคนอื่นเขา” เมื่อในตลาดหุ้นนั้นเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่าสำหรับนักลงทุนรายย่อย คงมีเพียงความรู้ที่เข้มข้น การรู้จักอดทนและรอคอย ที่จะช่วยให้ฝันเรื่องอิสรภาพทางการเงินกลายเป็นความจริง

…………………………………

🗞เหนือกว่าวอลล์สตรีท🗞

ในกระบวนการลงทุนนั้นความรู้เรื่องบัญชีและธุรกิจเป็นสิ่งที่ร่ำเรียนกันได้ไม่ยากเย็นนัก แต่ในที่สุดนักลงทุนซึ่งประสบความสำเร็จจะเฉือนคมกันที่รายละเอียด และความใส่ใจต่อหุ้นที่พวกเขาถือครองอยู่ ดังที่ ‘จิม โรเจอร์ส (Jim Rogers)’ เคยกล่าวไว้ว่า “หากคุณอ่านรายงานประจำปีของบริษัท คุณก็จะเหนือกว่าคนอีก 98% ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท” ความเชื่อประมาณที่ว่านักลงทุนระยะยาวมักซื้อหุ้นที่มี P/E ต่ำ และจ่ายเงินปันผลสูงนั้นมีมาช้านาน การที่นักลงทุนคัดเลือกหุ้นแบบปักธงในใจมาแล้วนั้นอาจทำให้พลาดโอกาสในการลงทุนที่ดีได้

………………………………….

🗞ความได้เปรียบ🗞

หากคุณเป็นนักลงทุนที่มีความชำนาญพิเศษในอุตสาหกรรมใดๆอันสืบเนื่องมาจากการศึกษา หน้าที่การงาน หรือชีวิตประจำวัน ก็ไม่ควรปล่อยองค์ความรู้ที่มีให้สูญเปล่า ผมเคยเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่ง และมีโอกาสได้พบกับนักลงทุนที่มีอาชีพหลักเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง เขาสนใจเข้าลงทุนในบริษัทนี้เพราะเข้าใจสภาวะตลาดวัสดุก่อสร้างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่า ‘มีความได้เปรียบในการแข่งขันทางการลงทุน’ แต่หากเราเป็นนักลงทุนธรรมดาทั่วไป ขอให้นึกถึงคำแนะนำของ ‘แจ๊ก เวลช์ (Jack Welch)’ อดีตประธานบริษัท General Electric ที่เคยกล่าวไว้ว่า “หากไม่มีความสามารถในการแข่งขัน จงอย่าแข่งขัน” กลับมาลงทุนในกิจการที่คุ้นเคยกันดีกว่าครับ

………………………………….

🗞เล่นหุ้นตามเซียน🗞

มุมมองหรือทัศนคติต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งของเซียนหรือผู้เชี่ยวชาญอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลา ไม่มีอะไรแน่นอน การฟังความคิดเห็นจากผู้รู้นั้นเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ แต่การฟังแล้วปักใจเชื่อว่ามันจะต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน อาจทำให้เรามีมุมมองด้านต่างๆคับแคบจนเกินไป เราควรให้น้ำหนักกับสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง (Fact) มากกว่าข้อคิดเห็น (Opinion)

…………………………………..

🗞การเงินสำหรับคนธรรมดา🗞

การเริ่มเก็บออมเงินตั้งแต่อายุยังน้อย หากได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ และมีอายุยืนยาวนั้นเป็นตัวช่วยชั้นดีต่อการสร้างความมั่งคั่งอย่างไม่ยากเย็นจนเกินไปนัก จุดตัดสำคัญในการลงทุนสำหรับคนทั่วไปคือคุณต้องแยกแยะให้ออกว่าธุรกิจใดเหมาะสมแก่การลงทุนระยะยาว บริษัทซึ่งมีความสามารถในการแข่งขันนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร เมื่อคัดเลือกมาเป็นอย่างดีแล้วก็ใส่เงินออมลงไปพอสมควร จากนั้นเหลือเพียงแค่รอเวลาให้เครื่องจักรแห่งความมั่งคั่งทำงานต่อไปเรื่อยๆ คนธรรมดาสามารถบรรลุเป้าหมายทางการออมได้ หากพวกเขามุ่งมั่น เอาจริง มีวินัย และไม่ใช้จ่ายเงินจนเกินตัว

………………………………..

🗞ไม่มีอะไรที่แน่นอน🗞

นักลงทุนทั่วไปสามารถจำกัดความเสี่ยงในการลงทุนได้ด้วยตนเอง เช่นกระจายการถือครองหุ้นไปในหลายบริษัท หลากหลายอุตสาหกรรม และถือครองเงินสดไว้ในระดับที่เพียงพอต่อภาระค่าใช้จ่ายในอนาคต จะมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการเงินส่วนบุคคล หากมีการกู้ยืมเงินมาลงทุนก็ควรอยู่ในระดับที่ไม่มากเกินไป สามารถบริหารจัดการได้ ‘วอเร็น บัฟเฟตต์ (Warren Buffett)’ ถือครองเงินสดประมาณ 10 – 20% จากสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ‘Berkshire Hathaway’ อยู่ตลอดเวลา เพราะเขาเชื่อว่าหากมีข้อเสนอทางการลงทุนดีๆผ่านเข้ามาจะได้ไขว่คว้าไว้อย่างทันท่วงที

‘โฮเวิร์ด มาร์ค (Howard Marks)’ เคยกล่าวไว้ว่า “เราไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างในอนาคต แต่เราสามารถเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ได้” นี่เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นอย่างมากสำหรับการดำรงชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ที่ไม่มีอะไรแน่นอน

………………………………….

🗞กระจายความเสี่ยง🗞

การกระจายความเสี่ยงนั้นหากนักลงทุนนำมาใช้อย่างถูกต้องก็สามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มพูนความมั่งคั่งได้ แต่ในทางกลับกันก็อาจสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลได้เช่นกันหากกระทำด้วยความไม่รู้ เช่นการกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ที่เราขาดความเชี่ยวชาญหรือความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ความรู้ในสินทรัพย์นั้นๆแทบไม่มี แบบนี้เรียกว่าการ ‘เดินเข้าหาความเสี่ยง’ คงได้รับบาดแผลกลับมาอย่างแน่นอน

………………………………

🗞เมฆหมอกแห่งการลงทุน🗞

ปัญหาหลักของนักลงทุนในปัจจุบันนี้ไม่ใช่การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร หากแต่เป็นการวิเคราะห์ข่าวสารเพื่อกลั่นกรองและพัฒนาไปสู่กลยุทธ์การลงทุน หากเราหมั่นศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ มองทุกสิ่งให้รอบด้านและเป็นกลาง ก็จะสามารถมองผ่านเมฆหมอกและค้นพบโอกาสดีๆทางการลงทุนได้ในท้ายที่สุด

……………………………….

🗞คิดอย่างเป็นอิสระ🗞

นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่นั้นมีความเชี่ยวชาญด้านบัญชีและงบการเงินอย่างทะลุปุโปร่ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินทุกคนจะประสบความสำเร็จในการลงทุน ยังมีปัจจัยสำคัญอีกมากมายซึ่งนอกเหนือไปจากความรู้ด้านการเงิน ไม่แน่ว่าพื้นฐานทางด้านจิตวิทยานั้นอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยแห่งความสำเร็จ ‘วอเร็น บัฟเฟตต์’ กล่าวไว้ว่า “คุณไม่มีวันเข้าถึงความสำเร็จในการลงทุนได้ หากคุณยังไม่สามารถคิดได้อย่างเป็นอิสระ” ระบบความคิดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

นักลงทุนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ที่เริ่มสนใจในตลาดหุ้น มักเริ่มต้นด้วยการศึกษาด้านการเงินก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่เมื่อศึกษาด้านการเงินมาพอสมควรแล้วก็ควรศึกษาหาความรู้แขนงอื่นๆเพิ่มเติมด้วย เพื่อเปิดมุมมองให้กว้างและแหลมคมยิ่งขึ้น นอกเหนือไปจากนั้นหากคุณเชื่อว่า “ความคิดที่ดีเกิดขึ้นจากใจที่ดี” ก็น่าจะศึกษาเรื่องการฝึกจิตใจดูบ้าง ผมเชื่อว่าจะเกิดประโยชน์ต่อชีวิตในฐานะนักลงทุนและมนุษย์คนหนึ่งบ้างไม่มากก็น้อยในอนาคต

………………………………………………………………………………..

📌แล้วพบกันใหม่สำหรับบทความตอนต่อไปใน ‘PART 2: แยกแยะ’ และ ‘PART 3: ตกผลึก’ เร็วๆนี้

📌ป.ล. หนังสือเล่มดังกล่าวนี้จะถูกจัดจำหน่ายผ่านช่องทาง ‘สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) : THAI VI’ หากแต่ยังไม่มีกำหนดการอันแน่นอน รอประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งนะครับ ไม่นานเกินรอ ขอขอบคุณ THAI VI และคุณชาย มโนภาส ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 😊

THINK &TRADE LIKE A CHAMPION แจกหนังสือสรุป

Mark Minervini เป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จัก ซึ่งประสบความสำเร็จในการซื้อขายในตลาดมานาน เขาเป็นนักพูดและผู้ให้ความรู้ ช่วยให้เทรดเดอร์มีความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อขายโดยการเรียนรู้วิธีคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาโดยใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค ข้อมูลเชิงลึก ระบบการลงทุนของเขาได้รับการชื่นชมจากทั้งเทรดเดอร์มากมายเพราะเขาอธิบายง่ายๆ และใช้จริงแจกหนังสือดีรับปีใหม่ครับ ขอบคุณที่สนับสนุนพวกเราLabhoonเสมอมาครับ^

X