สรุปเนื่อหา จากคลิป BLACK SWAN วันมืดมิด ในชีวิตการลงทุน EP.6

สรุปเนื่อหา จากคลิป BLACK SWAN วันมืดมิด ในชีวิตการลงทุน EP.6 อนุรักษ์ บุญแสวง
.
ชีวิตในวัยเด็กอาจารย์โจนั้นค่อนข้างจะลำบากเนื่องจากคุณพ่อนั้นได้จากไปในเวลาอันสั้นในช่วงอาจารย์ยังเรียนอยู่ในชั้นประถมปีที่ 5 คุณแม่ของอาจารย์ก็ได้เลี้ยง 4 คน เนื่องจากความลำบากคุณแม่ได้ค้าขายร้านขายของชำแล้วคุณแม่ก็ได้พูดถึงเรื่องให้จ่าย พูดถึงเรื่องเงิน ทำให้อาจารย์โจนะรู้สึกว่าเราอยากรวย
.
อาจารย์โจบอกว่าไม่รู้หรอกว่าอยากเป็นอะไรแต่รู้แค่ว่าอยากรวย อาจารย์จะรู้สึกว่าเงินทองนั้นหายาก ช่วงที่อาจารย์เริ่มเรียนมอปลายก็เลยมานั่งคิดว่าเราจะรวยได้อย่างไร
.
อาจารย์ค้นพบว่าการลงทุนนั้นจะมีเรื่องของความเป็นเจ้าของกิจการ การเติบโตไปกับกิจการและความมหัศจรรย์ของการทบต้น อาจาร์ยค้นพบว่าคนชั้นกลางจะมีเงินร้อยล้านได้จะต้องทำวิธีนี้ อาจารย์โจคำนวณปีละ 20% ทบต้นแต่ในความเป็นจริงอาจารย์ทำได้มากกว่านั้น 100 ล้านจึงมาเร็วกว่าที่คาด
.
การลงทุนในความรู้นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดถ้าอยากจะประสบความสำเร็จในการลงทุน อาจารย์ได้เลือกการลงทุนแนว vi รู้สึกว่าแนวนี้เป็นแนวที่ใช้สุดสำหรับอาจารย์


การซื้อหุ้นครั้งแรกของอาจารย์นั้นขาดทุนถึงขาดทุนถึง 60 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากนั้นอาจารย์ได้ฟังข่าวจากทางนักวิเคราะห์เพียงเดียวแต่อาจารย์ยังดูงบไม่เป็นด้วยซ้ำในช่วงแรก ดาราตำนานอาจารย์โจก็ได้ศึกษาเพิ่มเติมแล้วได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องจนมีวันนึงอาจารย์รู้สึกว่าผู้ที่ถือนั้นไม่ไปไหนเลยรู้สึกไม่แน่ใจว่าตัวเองเดินถูกทางหรือไม่ แต่ก็ได้อดทนต่อความเชื่อมั่นในแนวทางนี้ อีกไม่นานหุ้นตัวที่ถือก็ได้ขึ้นไปเป็นอย่างมาก การเชื่อมั่นว่าได้เดินมาถูกทางแล้ว


อาจารย์โจเชื่อว่าถ้าจะรวยได้ต้องเพิ่มรายได้แต่ถ้าช่วงแรกนั้นเพิ่มรายได้ได้ยากก็ต้องเน้นประหยัดที่มากเข้าไว้ ก็มาทำงานในกรุงเทพฯอาจารย์โจนั้นได้อยู่ห้องเช่าที่ราคาถูกมากและไม่ซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็นเลยในชีวิตแม้กระทั่งมือถือ เนื่องจากต้องใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็นและนำเงินที่เก็บได้ให้มากที่สุดมาลงทุน แต่อาจารย์ก็บอกว่าการที่อาจารย์ทนอยู่ได้เนื่องจากมีความฝันที่ยิ่งใหญ่เป็นเป้าหมายรออยู่ การตัดสินใจทำงานทุกอย่างที่ได้เงินเพื่อมาลงทุนเลือกที่จะเป็นเจ้านายตัวเองไม่อยากจะเรียนต่อเพื่อกลับไปรับเงินเดือน เราเชื่อว่าเงินก้อนนั้นจะนำพาให้กลายเป็นคนที่มีความมั่งคั่งขึ้นมาได้


ตอนนั้นก็ได้ลาออกจากงานมาลงทุนทั้งตัวแล้วก็ได้เลี้ยงตัวเองจากเงินลงทุนนั้นมาตลอดแต่ในช่วงการลงทุนนั้นมันก็ไม่ได้เรียบง่ายเสมอไปอาจารย์โจ้ก็ต้องเจอในช่วงภาวะตลาดที่ไม่ดีเช่นกัน


อ.โจบอกว่ายังไงในช่วงการลงทุนเราก็ต้องเจอวิกฤต อาจารย์ก็เสียหายเหมือนกันแต่อาจารย์ก็บอกว่าเราได้ทำใจไว้แล้วในเส้นทางลงทุนนี้ อาจารย์บอกว่าทางแก้ทางเดียว คือ เราเจอเราเสียหายได้แต่เราอย่าหมดตัว ห้ามกู้เงินมาลงทุน การลงทุนต้องทำใจไว้เลยว่าไม่มีใครสามารถมีวิกฤตได้แค่บางครั้งอาจจะโชคดีเท่านั้นที่เราสามารถออกได้ทัน เราไม่สามารถทําให้ทุกครั้ง ดังนั้นการวางแผนเราต้องวางแผนตอนที่เรามีสติดีๆตอนที่ยังไม่เกิดวิกฤตเราต้องเตรียมตัวไว้ก่อนเลย ผมจะต้องมีแผนล่วงหน้าไว้เสมอ การที่เราไม่มีเงินกู้นั้นจะทำให้เราไม่ถูกบังคับขายในช่วงวิกฤต สิ่งที่ห้ามทำก็คือขายหุ้นดีๆทิ้งตอนที่เกิดวิกฤตในจุดต่ำสุดในช่วงนี้หุ้นลงมากๆแล้วไปขายอันนั้นไม่ควรทำเป็นอย่างมาก เวลาหุ้นลงมากๆอาจารย์จะใช้จะใช้หลัก Money management คือการช้อนซื้อไปเรื่อยๆไปตอนหุ้นมีราคาถูกมากๆโดยที่ไม่เดาว่าจะเจอจุดต่ำสุดตรงไหน
อาจารย์มองว่าจุดที่ทุกคนคาดหวังที่สุดคือซื้อให้ถูกที่สุดแล้วขายให้แพงที่สุดแต่อาจารย์บอกว่าผมซื้อ ขายมาเป็นแสนครั้งผมทำได้แค่ครั้งเดียว แม้กระทั่งขายหมูยังไงก็กำไรแล้วรวยอยู่ดี เป็นนักลงทุนอยากจะแสวงหาความสมบูรณ์แบบถ้ารู้สึกว่ามันถูกก็ซื้อถ้าซื้อก็มันแพงเกินไปก็ขาย


ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของการลงทุนนั้นก็คือตัวเรา กลัวที่สุดมีแต่ข่าวร้ายประถมนั่นคือจุดที่ต่ำสุดแทบจะเสมอ เราต้องฝืนสัญชาตญาณให้ได้ไม่งั้นการลงทุนก็เจ๊ง โดยธรรมชาติของนักลงทุนแนว vi จะเป็นคนที่สวนกระแสเสมอ เราต้องคิดทบทวนไปมาว่าอะไรที่ดูดีเกินไปมันมีความเสี่ยงมันจริงหรือเปล่าซ่อนอยู่ หรือไม่ เราจะไม่เชื่อคนง่ายๆแล้วจะเชื่อในหลักการของเรา การลงทุนแนว vi ก็เหมือนการวิ่งมาราธอนช่วงแรกปล่อยตัวก็ยังมีคนวิ่งอยู่มากแต่พอยาวนานๆไปผ่านวิกฤต ก็จะมีคนหายไปเรื่อยๆ


การมาของโควิต อาจารย์บอกว่าอาจารย์เองก็ไม่รู้แต่อาการและศึกษาประวัติศาสตร์ของการลงทุนในช่วงในช่วงที่มีโรคระบาดอาจารย์มีแผนว่าถ้าหากเกิดโรคระบาดขึ้นอาจารย์จะทำการช็อตเพื่อประคองพอทเอาไว้ดังนั้นพอมีคุยกับอาจารย์จึงได้ทำตามแผน


ในชีวิตการลงทุนในไม่ได้เงียบง่ายเสมอไปก็มีการพ่ายแพ้มาไม่น้อย เหมือนที่ Winston churchill ได้กล่าวไว้ว่า บางครั้งเราแพ้ศึกเพื่อชนะสงคราม


อาจารย์เห็นบางครั้งบางคนไม่ยอมแพ้ไม่ยอมล้มก็หมดตัวไปหลายคนเหมือนกัน อาจารย์บอกว่าช่วงลงทุนใหม่ๆนั้นก็มีผิดเยอะมากแต่เราก็ต้องพยายามเรียนรู้เพื่อที่จะเก่งขึ้น แม้กระทั่งทุกวันนี้มันก็ยังมีผิดอยู่เรื่อยๆแต่หัวใจสำคัญที่สุดก็คือถ้าผิดแล้วคุณห้ามตาย การเสียหายหนักในตลาดหุ้นมีไม่กี่อย่างคือ 1 ใช้ margin 2 All In


อาจารย์เคยเสียหายหนักจากหุ้นบางประเภทเช่นกันเช่น หุ้นวัฏจักร
อาจารย์เชื่อว่าการลงทุนที่จะประสบสำเร็จนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ Insider หรือใช้ความเป็นรายใหญ่แต่สามารถใช้ข้อมูลที่เป็นข้อมูลสาธารณะแล้วทายความสามารถในการวิเคราะห์เพื่อจะสร้างความมั่งคั่งได้
หุ้นที่ต้องระวังอีกอย่างหนึ่งก็คือหุ้นที่มีตัวแปรเยอะ เช่น หุ้นเกษตร หรือผู้นำตาลที่จริงแล้วน้ำตาลและมีตัวแปรประมาณ 10 ชนิด


และหุ้นดัชนีก็คือหุ้นที่มีการพึ่งพาปัจจัยเดียวมากเกินไป เช่นบริษัทที่มีการพึ่งพาบริหารเพียงอย่างเดียวถ้าบริหารคนนี้บริษัทจะเจ๊ง หรือมีสถานที่เดียวอันเดียวถ้าเกิดถ้าหากเกิดไฟไหม้ก็เจ๊ง
แล้วเรื่องการซื้อตอนคนตกใจมากๆอาจารย์โจ้บอกว่าเราต้องระวังเพราะตอนวิกฤตนั้นมันเกิด circuit Breaker ซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้งมาก


อาจารย์บอกว่าทุกวันนี้เรามาไกลกว่านี้อีกเยอะมากแล้วการที่เราเห็นใครดีกว่าเราเราก็ควรจะยินดีและอนุโมทนากับเขาไป


อาจารย์ให้ความสำคัญกับปัจจัยของผู้บริหารเป็นอย่างมาก การวิเคราะห์ ผู้บริหารเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ต่อให้เราเก่งแค่ไหนถ้าเราไปลงทุนกับผู้บริหารประเภทนี้สุดท้ายเราก็จะไม่เหลืออะไรอยู่ดีอาจจะโดนโกงจนหมดเลยก็ได้ ผู้บริหารในฝันคือ

ตั้งใจทำธุรกิจจริงๆ มีผลประโยชน์สอดคล้องกับเราคือเขาถือหุ้นด้วยในสัดส่วนค้อนข้างเยอะ
แต่ถ้าหากเป็นผู้บริหารประเภทเค้าได้ แต่ผู้ถือหุ้น loss อาจารย์จะไม่ยุ่งเลยเด็ดขาด
ก็เหมือนกับในชีวิตจริงเราสามารถเลือกคบคนได้แล้วจะคบคนพาลทำไมเราควรจะคบบัณฑิต
วิธีการจำแนกเบื้องต้นก็คือดูคำพูดและการกระทำกับคำพูดและการกระทำไม่ตรงกันอันนั้นก็ต้องระวัง มีวิสัยทัศน์ที่ผ่านมาทำได้ ไม่มีพฤติกรรมที่โกหก


อาจารย์มองว่าตลาดหุ้นอดีตกับปัจจุบันอาจจะแตกต่างกันบ้างแต่สุดท้ายตลาดก็ยังคล้ายกันคือตลาดนั้นเคลื่อนที่ด้วยความโลภและความกลัว คำถามคือณตอนที่อาจารย์เข้าตลาดมาตลาดหุ้นอยู่ 400 จุดก็มีคนมองว่าตลาดมันเป็นสุสานแต่คนที่กล้าในเวลาที่ถูกต้องนั้นก็สมควรจะต้องได้รับผลตอบแทนรางวัลแล้ว ไม่ว่าตลาดตอนนั้นหรือตอนนี้ก็แตกต่างกันยังไงแต่โดยหลักการนั้นก็ยังขับเคลื่อนด้วยวิธีการที่คล้ายคลึงกัน
อาจารย์มองว่าดัชนีนั้นก็มีส่วนแต่โดยส่วนใหญ่แล้วนั้นเกิดจากการที่เราเลือกหุ้นเป็นสำคัญ อาจารย์บอกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นมีหลากหลายวิธีแต่ทำไมอาจารย์ถึงเลือกแนว vi เพราะว่าอาจารย์เห็นว่ามีคนมาสำเร็จจริงๆด้วยแนว vi โดยการดูจากคนส่วนใหญ่ที่สำเร็จนั้นค่าเฉลี่ยมากแค่ไหนในแนวทางนั้นๆ
อาจารย์เน้นย้ำกับนักลงทุนมือใหม่ คือการลงทุนนั้นสำคัญที่สุดคือ ก้าวแรก ถ้าคุณก้าวไปในทางที่ผิดไม่ว่าเก่งแค่ไหนก็ไม่มีวันถึงจุดหมาย เพราะหากว่าเราเดินทางเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน 5 ปี 10 ปีก็ยังไม่ประสบความสำเร็จอยู่ดี มีได้มีเสียเหมือนเรือที่วนรออยู่กลางน้ำไม่ไปไหน


ชาลีมังเกอร์ กล่าวว่าผมจะพยายามศึกษาว่าผมจะตายที่ไหนเพราะถ้าผมรู้ว่าผมจะตายที่ไหนผมจะไม่ไปที่นั่น ในตลาดหุ้นเหมือนกันเรารู้อยู่แล้วว่าวิธีไหนที่จะพาเราไปตายเราก็ไม่ควรเข้าไปยุ่ง
อาจารย์โจฝากว่าให้เลือกลงทุนวิธีการที่ถูกต้องและสิ่งสุดท้ายสำหรับนักลงทุนมือใหม่ก็คือคืออยากมีข้ออ้างเยอะ ให้เริ่มลงมือทำครับ

รัสเซียบุกยูเครน จับตาจีน ไต้หวัดปะทุต่อหรือไม่

ปูตินได้สั่งทหารของรัสเซียเข้าไปยูเครน เข้าไปภูมิภาคที่เรียกว่าดันบาส ซึ่งมีมือสำคัญอยู่สองเมืองโดยอ้างว่า ต้องส่งทหารเข้าไปเพื่อไปรักษาภูมิภาคนั้นเนื่องจากถูกยูเครนรังแก และเมื่อ 8 ปีที่แล้วรัสเซียก็ได้เขายึดไครเมียจบใน1 เดือน

อาจารย์มองว่าสิ่งที่รัสเซียได้เปรียบที่สุดก็คือการส่งแก๊สและน้ำมันเข้าไปยังยุโรป ทำให้ยุโรปไม่กล้าที่จะต่อกรกับรัสเซีย ซึ่งรัสเซียก็เคยยึดประเทศต่างๆมาแล้วก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นใครเมียหรือจอร์เจีย อ.มอฃง่าปูตินต้องการทำให้รัสเซีกลับไปยิ่งใหญ่เหมือนตอนสหภาพโซเวียต ประเทศอยู่ข้างๆยูเครนก็กังวลแน่นอน เพราะประเทศที่เป็นสมาชิกนาโต้ไม่ส่งทหารเข้าไปช่วยเลย

อาจารย์มองว่าตอนนี้ยุโรปอ่อนแอมาก ตอนนี้ก็รัสเซียได้เข้ายึดครองส่วนหนึ่งของประเทศยูเครนไปแล้วแต่ยังไม่ได้ทั้งประเทศ ส่วนจะรุนแรงได้ไหมอยู่ที่ว่ายูเครนจะต่อสู้แค่ไหน ซึ่งจริงๆแล้วอยู่ที่ว่าสงครามจะยืดเยื้อแค่ไหนและต้องดูว่าคนยูเครนจริงๆเนี่ยต่อต้านรัสเซียหรือไม่ เพราะหากมีการต่อต้านอย่างมากจากประชาชน ประเทศอื่นก็สามารถเข้าไปสนับสนุนได้อย่างเต็มที่

ส่วน ผลกระทบที่แย่ในเศรษฐกิจ ก็คือพลังงานตอนนี้นี่ขาดแคลนอยู่แล้ว ทำให้น้ำมันยิ่งขาดแคลนขึ้นไปอีก อ.มองว่าถ้าหากนาโต้ไม่สามารถช่วยยูเครนได้ จีนก็น่าจะไปยึดไต้หวันได้อย่างไม่ยากเย็น ปูตินเข้ายึดช่วงนี้เพราะว่าน้ำมันแพงบวกกับทางยุโรปนั้นเป็นหน้าหนาวจะต้องพึ่งพารัสเซียส่วนตอนนี้ตอนนี้ Shale gas มาช้าเนื่องจากถูกมองว่าทำลายธรรมชาติ โจไบเด้นไม่สนับสนุนไบเด้น อยากสู้กับรัสเซียยูเครนมากกว่าสู้กับจีนที่ไต้หวัน มอกว่าตรงไต้หวันนั้นไม่มีอะไรเลยที่อเมริกาได้เปรียบเหมือนแถบที่มีนาโต้

ตลาดหุ้นไทยไม่ค่อยกลัวเรื่องนี้ เเต่เรากระทบน้ำมันค่อนข้างเยอะมากกว่าเพราะว่าส่วนต่างจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้นทุนเราขึ้นสูงมากจนแทบจะไปพอดีกับจำนวนท่องเที่ยวที่เราคาดหวังที่จะเข้ามาเที่ยว GDP จะโตได้ยากขึ้น อาจจะหายไปถึงครึ่งหนึ่งหรือไม่โตเลยก็ได้อาจารย์บอกว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นแต่ไม่มีพลังงานใช้ทั้งโลก แล้วถ้าหากรัฐบาลไทยจะต้องกู้มาอุดหนุนราคาพลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดการขาดดุลการค้าขึ้นเงินบาทอ่อนค่าลงไปอีก

จีนเองก็ไม่ได้เข้าข้างรัสเซียในเรื่องของยูเครน เพราะไม่อยากถูกมองว่าเป็นอันธพาล แต่อาจารย์มองว่าจีนจะได้ประโยชน์มากที่สุดเพราะถ้าหมดนี่ไงว่าถ้ามีกาช่วยยูเครนไม่ได้ไต้หวันก็ไม่น่าช่วยได้เช่นกัน

ส่วนความกังวลว่าจะมีสภาพเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือไม่ อาจารย์ก็มองให้เทียบตอนสงครามโลกที่ 2 คือตอนนั้นฮิตเลอร์ไล่ยึดทุกคนก็ถอยจนถอยไม่ได้แล้วจึงเกิดสงคราม ต้องดูว่าสุดท้ายปูตินจะไล่จนถึงจุดที่ทนไม่ไหวหรือเปล่า เรายังคงต้องรอดูเหมือนกัน

อเมริกาเองมีปัจจัยเสี่ยงในด้านในเรื่องของเงินเฟ้อ ตอนนี้อเมริกามีปัญหาเรื่อง 1.แรงงานที่ขาดแคลนด้วย อันที่ 2 พลังงานราคาขึ้นอีก อันที่ 3 คือต้นทุนทางการเงินคือดอกเบี้ยขึ้นอีกที่เมกาทางออกที่เป็นไปได้มากที่สุดคือมีเทคโนโลยีที่ทดแทน 3 อย่างนี้ได้ซึ่งตอนนี้ก็ยังมองไม่เห็นเพราะ 3 อย่างนี้เป็นต้นทุนการผลิตทั้งสิ้น

เมกาแทบจะไม่สามารถที่จะทำ qe ต่อไปได้อีกแล้วเพราะว่าถ้ายิ่งทำคนจะยิ่งมองว่าถ้าไม่ใช้เงินตอนนี้สินค้าจะแพงขึ้นอีกและยิ่งมีตัวเลขเงินเฟ้อเข้าไปอีก

ปัจจัยพื้นฐานถึงแม้จะไม่รวมยูเครนยังไงดอกเบี้ยก็ต้องขึ้นอยู่แล้ว ส่วนความน่ากลัวคือตอนนี้หุ้นแพงนักลงทุนต้องรับรู้ได้แล้ว โดยเฉพาะหุ้น PE สูงถ้าเจอดอกเบี้ยขาขึ้น PEจะอยู่สูงไม่ได้จะต้องลงมาต่ำ มองว่าอีก 1-2 ปีข้างหน้าpe จะลงมา ถ้ากำไรไม่ดีจริงหุ้นตัวนั้นลงแน่นอน

อาจารย์มองว่าฟองสบู่ที่ใหญ่ที่สุดคือคริปโตและก็ได้แตกไปแล้ว และถ้าคนที่ถือคลิปโตยังมีความมั่นใจอยู่ก็อาจจะยังลงได้ไม่จบ แต่ถ้ามีความกลัวมากแล้วไม่อยากคุยอีกแล้วราคานั้นน่าจะเป็นจุดต่ำสุดได้

อาจารย์มองต่างจากนักวิเคราะห์นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าต้นปีจะไม่ดีและปลายปีจะดี แต่อาจารย์บอกว่าต้นปีและปลายปีจะหนักเพราะว่ามีการขึ้นดอกเบี้ยหลายรอบ ความโชคร้ายของไทยคือตอนที่เราจะฟื้นตัวแต่ต้องเจอปัญหาดอกเบี้ยและเงินเฟ้อเข้ามาโจมตี มองว่าปีที่ผ่านมาเราฉีดวัคซีนได้ไม่ดีพอทำให้ฟื้นตามโลกไม่ทัน ส่งออกพอไปได้บ้าง แต่่รัสเซียยึดยูเครนก็ไม่ง่ายนะถ้าหากเจอแบบกลุ่มกบฏสมัยอัฟกานิสถาน ประเทศยูเครนก็ไม่ได้เล็กอเมริกาก็สามารถสนับสนุนอาวุธได้ด้วย

สรุปก็คืออันที่ 1 มองว่านักลงทุนต้องดูว่ายูเครนเขาจะสู้แค่ไหนประชาชนรู้สึกอย่างไรกับรัสเซียอันที่ 2 ต้องดูว่าการคว้ำบาตรของอเมริกาและยุโรปนั้นรุนแรงและเข้มข้นแค่ไหน ความสำคัญสำหรับโจไบเดนในเรื่องของยูเครนคือยูเครนมีความสำคัญกับยุโรปและต้องไม่เป็นเยี่ยงอย่างให้จีนเห็น เพราะไม่งั้นในกรณีนี้จีนจะหยุดไต้หวันอย่างแน่นอน จากข้อมูลจีนพร้อมยึดใต้หวันใน 6 ปีข้างหน้านั้นเอง

====================

สนใจเครื่องมือ วิเคราะห์กองทุน ดูรายละเอียดได้ที่ www.goinvest.in.th

X