เดือด! เงินเฟ้อยังแผลงฤทธิ์ ตลาดหุ้นเตรียมรับแรงสั่นสะเทือน!

Core PCE ออกมาแล้ว และ… แม่เจ้า! สูงกว่าที่คาดอีกแล้วจ้า 😵‍💫

งานนี้ Fed คงต้องเกาหัวแกรก ๆ เพราะแผนลดดอกเบี้ยอาจต้องพักก่อน เซ็งเลย!

📌 ไฮไลท์ของความป่วนครั้งนี้:

✅ Core PCE ยังดื้อ ไม่ยอมลด!

เดือนต่อเดือน (m/m): +0.4% (คาด +0.3%)

ปีต่อปี (y/y): +2.8% (คาด +2.7%)

แปลว่าเงินเฟ้อพื้นฐานยังเหนียวแน่น ไม่ยอมลงง่าย ๆ!

✅ เงินเฟ้อรวม มากับความนิ่ง

PCE Headline (m/m): +0.3% (ตรงเป๊ะตามคาด)

PCE Headline (y/y): +2.5% (ตรงตามสคริปต์)

ตัวเลขนี้ดูเรียบร้อยดี แต่ตลาดสนใจ Core มากกว่าไง!

💥 ผลกระทบต่อโลกแห่งการลงทุน

ตัวเลขแบบนี้ ส่งสัญญาณชัดว่า เตรียมตัวปั่นป่วนได้เลย!

1️⃣ Fed อาจต้องรอไปก่อน – ตลาดเคยหวังว่า Fed จะใจดี ลดดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้ แต่มาเจอเงินเฟ้อดื้อแบบนี้ บอกเลยว่า “ใจเย็น ๆ ก่อนนะเด็ก ๆ”

2️⃣ หุ้นอาจโดนเท! – นักลงทุนสายหวังดอกเบี้ยต่ำอาจต้องร้องไห้หนักมาก เพราะ Fed อาจยังไม่พร้อมใจอ่อน ตลาดเทคฯ และหุ้นที่พึ่งเงินกู้ต้นทุนต่ำอาจโดนกระทบเต็ม ๆ 📉

3️⃣ Bond Yield มีลุ้นพุ่ง – เงินเฟ้อดื้อแบบนี้ นักลงทุนอาจไปเทใจให้พันธบัตรแทน ขอผลตอบแทนสูงขึ้นไปอีก ทำให้ Bond Yield เด้งขึ้นตามไปด้วย

🔥 อะไรที่ต้องจับตาต่อไป?

Fed จะพูดยังไง? – Jerome Powell จะออกมาปลอบตลาด หรือจะส่งสัญญาณว่า “เอานะ พวกนายทนอีกหน่อย” ต้องลุ้น!

ตัวเลขตลาดแรงงาน – ถ้าค่าจ้างยังสูง และคนยังมีงานทำกันเพียบ Fed อาจยิ่งไม่มีข้ออ้างลดดอกเบี้ยเร็ว ๆ

สงครามการค้า & การเมืองสหรัฐฯ – ถ้ารัฐบาลงัดนโยบายกีดกันทางการค้าแรง ๆ อาจยิ่งไปเร่งเงินเฟ้อให้ป่วนกว่าเดิม

⚡ สรุป: เงินเฟ้อยังไม่ยอมแพ้ ตลาดต้องเตรียมตัวรับศึกหนักต่อไป!

📌 นักลงทุนต้องวางแผนให้ดี กระจายพอร์ตให้เหมาะสม จะหวังดอกเบี้ยต่ำแบบชิว ๆ ไม่ได้แล้ว! งานนี้ต้องจับตา Fed อย่างใกล้ชิด 🤓

📉 ตลาดจะลงหนักแค่ไหน? Fed จะยื้อดอกเบี้ยไปอีกนานแค่ไหน? อืม… ไปลุ้นกันต่อครับพี่น้องงงงงง! 🔥

#หุ้นสหรัฐ#SPX#เงินเฟ้อ

หากต้องดูกราฟเชิงระเอียด

https://visualize.graphy.app/…/49e7d040-f69b-4eef-9179…

🔥สนใจห้อง LINE VIP หุ้นสหรัฐ (ฟรี)

สิ่งที่ได้รับ 1.วิเคราะห์แผนเทรดหุ้นรายตัว 2.Indy พิเศษบน Trading view

เพียงเปิดพอร์ตหุ้นต่างประเทศกับโบรค partner

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://lin.ee/jOZtZCl

//////////

🎁สนใจ สมาชิก Labhoonplus สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก:

1.wave 3 ขาขึ้นใหญ่ [ ระบบสแกน ]

2.หุ้นสหรัฐ กราฟสวย ห้องVIP

3.ระบบสแกนหุ้นขาขึ้นวันแรก พร้อมเล่น

4.ระบบสแกน Fund Flow, Sector Rotation

5.ห้อง Telegram VIP พูดคุย update ข่าวสารการลงทุน

6.Indicator หน้าเทรดพิเศษใน โปรแกรม Trading view

Ai สแกนหุ้น ด้วย price pattern ที่นักลงทุนชื่นชอบ

รับสิทธิพิเศษเหล่านี้ สอบถามรายละเอียดได้ที่ add line https://bit.ly/3tgVS0A

หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://labhoonplus.com/applabhoon

​มีคนกลับลำแล้วจ้า มอร์แกน สแตนลีย์ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นจีน

ตลาดหุ้นจีน

​มอร์แกน สแตนลีย์ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นจีนเป็นครั้งที่สองในปีนี้ โดยระบุถึงการคาดการณ์ที่ว่ารายได้ของบริษัทจดทะเบียนจะปรับตัวสูงขึ้น และมีมุมมองบวกมากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจและสกุลเงินหยวนของจีน ​

นอกจากนี้ มอร์แกน สแตนลีย์ยังได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2025 ขึ้นสู่ระดับ 4.5% จากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 4% และปรับคาดการณ์ค่าเงินหยวนสู่ระดับ 7.35 หยวนต่อดอลลาร์ภายในกลางปี 2025 และ 7.50 หยวนต่อดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2025 ​

อย่างไรก็ตาม โกลด์แมน แซคส์ได้แสดงความเห็นว่าตลาดหุ้นจีนมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่เตือนว่าอาจเผชิญกับแรงกดดันจากการทำกำไร เนื่องจากนโยบายและสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่อาจมีความเคลื่อนไหวในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า

อ่านวิเคราะห์หุ้นจีนย้อนหลัง

#จีน #ตลาดหุ้นจีน #Hshare #Ashare

การฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศจีน

การฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศจีน

หุ้นจีน 🇨🇳

สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคนที่ติดตาม Live ของผมเป็นประจำ! วันนี้เรามีประเด็นร้อนๆ อีกหนึ่งเรื่อง ที่ผมเชื่อว่าทุกคนรอคอย นั่นก็คือเรื่องของ การฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศจีน มาฝากครับ

จากกราฟจะสังเกตุเห็นได้ว่า

ข้อมูลจากปลายปี 2024 ถึงต้นปี 2025 บ่งชี้ว่าราคาบ้านและสภาพแวดล้อมด้านอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญว่าตลาดอาจกำลังเข้าสู่ช่วง “bottoming out” หรือแตะจุดต่ำสุด เมื่อมองในเชิงบวก นี่อาจเป็นจังหวะที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนระยะยาว เพราะเมื่อผ่านช่วงนี้ไป โอกาสฟื้นตัวก็จะเริ่มปรากฏให้เห็น!

🚀 ปี 2025 – จุดเริ่มต้นของการฟื้นตัว

หากแนวโน้ม “bottoming out” ยังคงดำเนินต่อไป ปี 2025 อาจเป็นช่วงเวลาที่ตลาดเริ่มกลับมาแข็งแกร่ง แม้การฟื้นตัวอาจไม่พุ่งขึ้นรวดเร็วเหมือนในอดีต แต่ก็มีโอกาสที่ราคาจะค่อยๆ ปรับตัวขึ้นอย่างมั่นคง

🔥 ทำไมตอนนี้อาจเป็นช่วงเวลาที่ดี?

✅ Downside จำกัด – Upside น่าสนใจ

เมื่อราคาลงมาใกล้จุดต่ำสุดแล้ว ความเสี่ยงขาลง (Downside) ก็น้อยลง ในขณะที่โอกาสเติบโตในอนาคตยังมีอยู่

✅ นโยบายกระตุ้นจากรัฐบาล

รัฐบาลจีนอาจเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม เช่น การลดอัตราดอกเบี้ย ผ่อนปรนข้อกำหนดด้านสินเชื่อ และสนับสนุนผู้ซื้อบ้าน ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ตลาดฟื้นตัว

✅ ความเชื่อมั่นเริ่มกลับมา

เมื่อราคาบ้านเริ่มมีเสถียรภาพ ผู้ซื้อและนักลงทุนก็เริ่มกลับเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการฟื้นตัวและเกิดแรงหนุนต่อราคาบ้านในระยะยาว

✅ เศรษฐกิจจีนยังแข็งแกร่งในระยะยาว

แม้จะมีความท้าทาย แต่จีนยังคงเป็นหนึ่งในศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลก การเติบโตของเมืองหลักและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะช่วยสนับสนุนตลาดอสังหาฯ ให้กลับมาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นได้

📌 สิ่งที่ต้องจับตา

🔹 มาตรการใหม่ของรัฐบาล – ติดตามการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมที่อาจเป็นตัวเร่งให้ตลาดฟื้นตัวเร็วยิ่งขึ้น

🔹 แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย – อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยกระตุ้นการซื้อและทำให้ตลาดกลับมาคึกคัก

🔹 ความต้องการจากนักลงทุนต่างชาติ – หากตลาดเริ่มมีเสถียรภาพ นักลงทุนต่างชาติก็อาจกลับเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น

💡 มุมมองส่วนตัว: โอกาสอยู่ที่ใครมองเห็นก่อน

ผมเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนในปี 2025 มีโอกาสฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ และตอนนี้อาจเป็นช่วงเวลาทองสำหรับนักลงทุนที่มองการณ์ไกล เพราะเมื่อจุดต่ำสุดผ่านไป โอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นในอนาคตมีความเป็นไปได้สูง🚀

🔥 คุณมองตลาดอสังหาฯ จีนปี 2025 อย่างไร? แบ่งปันมุมมองของคุณได้เลย! 👇

#อสังหาจีน#กองทุนจีน#เศรษฐกิจจีน#หุ้นจีน

สรุปเนื่อหา จากคลิป BLACK SWAN วันมืดมิด ในชีวิตการลงทุน EP.6

สรุปเนื่อหา จากคลิป BLACK SWAN วันมืดมิด ในชีวิตการลงทุน EP.6 อนุรักษ์ บุญแสวง
.
ชีวิตในวัยเด็กอาจารย์โจนั้นค่อนข้างจะลำบากเนื่องจากคุณพ่อนั้นได้จากไปในเวลาอันสั้นในช่วงอาจารย์ยังเรียนอยู่ในชั้นประถมปีที่ 5 คุณแม่ของอาจารย์ก็ได้เลี้ยง 4 คน เนื่องจากความลำบากคุณแม่ได้ค้าขายร้านขายของชำแล้วคุณแม่ก็ได้พูดถึงเรื่องให้จ่าย พูดถึงเรื่องเงิน ทำให้อาจารย์โจนะรู้สึกว่าเราอยากรวย
.
อาจารย์โจบอกว่าไม่รู้หรอกว่าอยากเป็นอะไรแต่รู้แค่ว่าอยากรวย อาจารย์จะรู้สึกว่าเงินทองนั้นหายาก ช่วงที่อาจารย์เริ่มเรียนมอปลายก็เลยมานั่งคิดว่าเราจะรวยได้อย่างไร
.
อาจารย์ค้นพบว่าการลงทุนนั้นจะมีเรื่องของความเป็นเจ้าของกิจการ การเติบโตไปกับกิจการและความมหัศจรรย์ของการทบต้น อาจาร์ยค้นพบว่าคนชั้นกลางจะมีเงินร้อยล้านได้จะต้องทำวิธีนี้ อาจารย์โจคำนวณปีละ 20% ทบต้นแต่ในความเป็นจริงอาจารย์ทำได้มากกว่านั้น 100 ล้านจึงมาเร็วกว่าที่คาด
.
การลงทุนในความรู้นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดถ้าอยากจะประสบความสำเร็จในการลงทุน อาจารย์ได้เลือกการลงทุนแนว vi รู้สึกว่าแนวนี้เป็นแนวที่ใช้สุดสำหรับอาจารย์


การซื้อหุ้นครั้งแรกของอาจารย์นั้นขาดทุนถึงขาดทุนถึง 60 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากนั้นอาจารย์ได้ฟังข่าวจากทางนักวิเคราะห์เพียงเดียวแต่อาจารย์ยังดูงบไม่เป็นด้วยซ้ำในช่วงแรก ดาราตำนานอาจารย์โจก็ได้ศึกษาเพิ่มเติมแล้วได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องจนมีวันนึงอาจารย์รู้สึกว่าผู้ที่ถือนั้นไม่ไปไหนเลยรู้สึกไม่แน่ใจว่าตัวเองเดินถูกทางหรือไม่ แต่ก็ได้อดทนต่อความเชื่อมั่นในแนวทางนี้ อีกไม่นานหุ้นตัวที่ถือก็ได้ขึ้นไปเป็นอย่างมาก การเชื่อมั่นว่าได้เดินมาถูกทางแล้ว


อาจารย์โจเชื่อว่าถ้าจะรวยได้ต้องเพิ่มรายได้แต่ถ้าช่วงแรกนั้นเพิ่มรายได้ได้ยากก็ต้องเน้นประหยัดที่มากเข้าไว้ ก็มาทำงานในกรุงเทพฯอาจารย์โจนั้นได้อยู่ห้องเช่าที่ราคาถูกมากและไม่ซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็นเลยในชีวิตแม้กระทั่งมือถือ เนื่องจากต้องใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็นและนำเงินที่เก็บได้ให้มากที่สุดมาลงทุน แต่อาจารย์ก็บอกว่าการที่อาจารย์ทนอยู่ได้เนื่องจากมีความฝันที่ยิ่งใหญ่เป็นเป้าหมายรออยู่ การตัดสินใจทำงานทุกอย่างที่ได้เงินเพื่อมาลงทุนเลือกที่จะเป็นเจ้านายตัวเองไม่อยากจะเรียนต่อเพื่อกลับไปรับเงินเดือน เราเชื่อว่าเงินก้อนนั้นจะนำพาให้กลายเป็นคนที่มีความมั่งคั่งขึ้นมาได้


ตอนนั้นก็ได้ลาออกจากงานมาลงทุนทั้งตัวแล้วก็ได้เลี้ยงตัวเองจากเงินลงทุนนั้นมาตลอดแต่ในช่วงการลงทุนนั้นมันก็ไม่ได้เรียบง่ายเสมอไปอาจารย์โจ้ก็ต้องเจอในช่วงภาวะตลาดที่ไม่ดีเช่นกัน


อ.โจบอกว่ายังไงในช่วงการลงทุนเราก็ต้องเจอวิกฤต อาจารย์ก็เสียหายเหมือนกันแต่อาจารย์ก็บอกว่าเราได้ทำใจไว้แล้วในเส้นทางลงทุนนี้ อาจารย์บอกว่าทางแก้ทางเดียว คือ เราเจอเราเสียหายได้แต่เราอย่าหมดตัว ห้ามกู้เงินมาลงทุน การลงทุนต้องทำใจไว้เลยว่าไม่มีใครสามารถมีวิกฤตได้แค่บางครั้งอาจจะโชคดีเท่านั้นที่เราสามารถออกได้ทัน เราไม่สามารถทําให้ทุกครั้ง ดังนั้นการวางแผนเราต้องวางแผนตอนที่เรามีสติดีๆตอนที่ยังไม่เกิดวิกฤตเราต้องเตรียมตัวไว้ก่อนเลย ผมจะต้องมีแผนล่วงหน้าไว้เสมอ การที่เราไม่มีเงินกู้นั้นจะทำให้เราไม่ถูกบังคับขายในช่วงวิกฤต สิ่งที่ห้ามทำก็คือขายหุ้นดีๆทิ้งตอนที่เกิดวิกฤตในจุดต่ำสุดในช่วงนี้หุ้นลงมากๆแล้วไปขายอันนั้นไม่ควรทำเป็นอย่างมาก เวลาหุ้นลงมากๆอาจารย์จะใช้จะใช้หลัก Money management คือการช้อนซื้อไปเรื่อยๆไปตอนหุ้นมีราคาถูกมากๆโดยที่ไม่เดาว่าจะเจอจุดต่ำสุดตรงไหน
อาจารย์มองว่าจุดที่ทุกคนคาดหวังที่สุดคือซื้อให้ถูกที่สุดแล้วขายให้แพงที่สุดแต่อาจารย์บอกว่าผมซื้อ ขายมาเป็นแสนครั้งผมทำได้แค่ครั้งเดียว แม้กระทั่งขายหมูยังไงก็กำไรแล้วรวยอยู่ดี เป็นนักลงทุนอยากจะแสวงหาความสมบูรณ์แบบถ้ารู้สึกว่ามันถูกก็ซื้อถ้าซื้อก็มันแพงเกินไปก็ขาย


ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของการลงทุนนั้นก็คือตัวเรา กลัวที่สุดมีแต่ข่าวร้ายประถมนั่นคือจุดที่ต่ำสุดแทบจะเสมอ เราต้องฝืนสัญชาตญาณให้ได้ไม่งั้นการลงทุนก็เจ๊ง โดยธรรมชาติของนักลงทุนแนว vi จะเป็นคนที่สวนกระแสเสมอ เราต้องคิดทบทวนไปมาว่าอะไรที่ดูดีเกินไปมันมีความเสี่ยงมันจริงหรือเปล่าซ่อนอยู่ หรือไม่ เราจะไม่เชื่อคนง่ายๆแล้วจะเชื่อในหลักการของเรา การลงทุนแนว vi ก็เหมือนการวิ่งมาราธอนช่วงแรกปล่อยตัวก็ยังมีคนวิ่งอยู่มากแต่พอยาวนานๆไปผ่านวิกฤต ก็จะมีคนหายไปเรื่อยๆ


การมาของโควิต อาจารย์บอกว่าอาจารย์เองก็ไม่รู้แต่อาการและศึกษาประวัติศาสตร์ของการลงทุนในช่วงในช่วงที่มีโรคระบาดอาจารย์มีแผนว่าถ้าหากเกิดโรคระบาดขึ้นอาจารย์จะทำการช็อตเพื่อประคองพอทเอาไว้ดังนั้นพอมีคุยกับอาจารย์จึงได้ทำตามแผน


ในชีวิตการลงทุนในไม่ได้เงียบง่ายเสมอไปก็มีการพ่ายแพ้มาไม่น้อย เหมือนที่ Winston churchill ได้กล่าวไว้ว่า บางครั้งเราแพ้ศึกเพื่อชนะสงคราม


อาจารย์เห็นบางครั้งบางคนไม่ยอมแพ้ไม่ยอมล้มก็หมดตัวไปหลายคนเหมือนกัน อาจารย์บอกว่าช่วงลงทุนใหม่ๆนั้นก็มีผิดเยอะมากแต่เราก็ต้องพยายามเรียนรู้เพื่อที่จะเก่งขึ้น แม้กระทั่งทุกวันนี้มันก็ยังมีผิดอยู่เรื่อยๆแต่หัวใจสำคัญที่สุดก็คือถ้าผิดแล้วคุณห้ามตาย การเสียหายหนักในตลาดหุ้นมีไม่กี่อย่างคือ 1 ใช้ margin 2 All In


อาจารย์เคยเสียหายหนักจากหุ้นบางประเภทเช่นกันเช่น หุ้นวัฏจักร
อาจารย์เชื่อว่าการลงทุนที่จะประสบสำเร็จนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ Insider หรือใช้ความเป็นรายใหญ่แต่สามารถใช้ข้อมูลที่เป็นข้อมูลสาธารณะแล้วทายความสามารถในการวิเคราะห์เพื่อจะสร้างความมั่งคั่งได้
หุ้นที่ต้องระวังอีกอย่างหนึ่งก็คือหุ้นที่มีตัวแปรเยอะ เช่น หุ้นเกษตร หรือผู้นำตาลที่จริงแล้วน้ำตาลและมีตัวแปรประมาณ 10 ชนิด


และหุ้นดัชนีก็คือหุ้นที่มีการพึ่งพาปัจจัยเดียวมากเกินไป เช่นบริษัทที่มีการพึ่งพาบริหารเพียงอย่างเดียวถ้าบริหารคนนี้บริษัทจะเจ๊ง หรือมีสถานที่เดียวอันเดียวถ้าเกิดถ้าหากเกิดไฟไหม้ก็เจ๊ง
แล้วเรื่องการซื้อตอนคนตกใจมากๆอาจารย์โจ้บอกว่าเราต้องระวังเพราะตอนวิกฤตนั้นมันเกิด circuit Breaker ซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้งมาก


อาจารย์บอกว่าทุกวันนี้เรามาไกลกว่านี้อีกเยอะมากแล้วการที่เราเห็นใครดีกว่าเราเราก็ควรจะยินดีและอนุโมทนากับเขาไป


อาจารย์ให้ความสำคัญกับปัจจัยของผู้บริหารเป็นอย่างมาก การวิเคราะห์ ผู้บริหารเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ต่อให้เราเก่งแค่ไหนถ้าเราไปลงทุนกับผู้บริหารประเภทนี้สุดท้ายเราก็จะไม่เหลืออะไรอยู่ดีอาจจะโดนโกงจนหมดเลยก็ได้ ผู้บริหารในฝันคือ

ตั้งใจทำธุรกิจจริงๆ มีผลประโยชน์สอดคล้องกับเราคือเขาถือหุ้นด้วยในสัดส่วนค้อนข้างเยอะ
แต่ถ้าหากเป็นผู้บริหารประเภทเค้าได้ แต่ผู้ถือหุ้น loss อาจารย์จะไม่ยุ่งเลยเด็ดขาด
ก็เหมือนกับในชีวิตจริงเราสามารถเลือกคบคนได้แล้วจะคบคนพาลทำไมเราควรจะคบบัณฑิต
วิธีการจำแนกเบื้องต้นก็คือดูคำพูดและการกระทำกับคำพูดและการกระทำไม่ตรงกันอันนั้นก็ต้องระวัง มีวิสัยทัศน์ที่ผ่านมาทำได้ ไม่มีพฤติกรรมที่โกหก


อาจารย์มองว่าตลาดหุ้นอดีตกับปัจจุบันอาจจะแตกต่างกันบ้างแต่สุดท้ายตลาดก็ยังคล้ายกันคือตลาดนั้นเคลื่อนที่ด้วยความโลภและความกลัว คำถามคือณตอนที่อาจารย์เข้าตลาดมาตลาดหุ้นอยู่ 400 จุดก็มีคนมองว่าตลาดมันเป็นสุสานแต่คนที่กล้าในเวลาที่ถูกต้องนั้นก็สมควรจะต้องได้รับผลตอบแทนรางวัลแล้ว ไม่ว่าตลาดตอนนั้นหรือตอนนี้ก็แตกต่างกันยังไงแต่โดยหลักการนั้นก็ยังขับเคลื่อนด้วยวิธีการที่คล้ายคลึงกัน
อาจารย์มองว่าดัชนีนั้นก็มีส่วนแต่โดยส่วนใหญ่แล้วนั้นเกิดจากการที่เราเลือกหุ้นเป็นสำคัญ อาจารย์บอกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นมีหลากหลายวิธีแต่ทำไมอาจารย์ถึงเลือกแนว vi เพราะว่าอาจารย์เห็นว่ามีคนมาสำเร็จจริงๆด้วยแนว vi โดยการดูจากคนส่วนใหญ่ที่สำเร็จนั้นค่าเฉลี่ยมากแค่ไหนในแนวทางนั้นๆ
อาจารย์เน้นย้ำกับนักลงทุนมือใหม่ คือการลงทุนนั้นสำคัญที่สุดคือ ก้าวแรก ถ้าคุณก้าวไปในทางที่ผิดไม่ว่าเก่งแค่ไหนก็ไม่มีวันถึงจุดหมาย เพราะหากว่าเราเดินทางเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน 5 ปี 10 ปีก็ยังไม่ประสบความสำเร็จอยู่ดี มีได้มีเสียเหมือนเรือที่วนรออยู่กลางน้ำไม่ไปไหน


ชาลีมังเกอร์ กล่าวว่าผมจะพยายามศึกษาว่าผมจะตายที่ไหนเพราะถ้าผมรู้ว่าผมจะตายที่ไหนผมจะไม่ไปที่นั่น ในตลาดหุ้นเหมือนกันเรารู้อยู่แล้วว่าวิธีไหนที่จะพาเราไปตายเราก็ไม่ควรเข้าไปยุ่ง
อาจารย์โจฝากว่าให้เลือกลงทุนวิธีการที่ถูกต้องและสิ่งสุดท้ายสำหรับนักลงทุนมือใหม่ก็คือคืออยากมีข้ออ้างเยอะ ให้เริ่มลงมือทำครับ

รัสเซียบุกยูเครน จับตาจีน ไต้หวัดปะทุต่อหรือไม่

ปูตินได้สั่งทหารของรัสเซียเข้าไปยูเครน เข้าไปภูมิภาคที่เรียกว่าดันบาส ซึ่งมีมือสำคัญอยู่สองเมืองโดยอ้างว่า ต้องส่งทหารเข้าไปเพื่อไปรักษาภูมิภาคนั้นเนื่องจากถูกยูเครนรังแก และเมื่อ 8 ปีที่แล้วรัสเซียก็ได้เขายึดไครเมียจบใน1 เดือน

อาจารย์มองว่าสิ่งที่รัสเซียได้เปรียบที่สุดก็คือการส่งแก๊สและน้ำมันเข้าไปยังยุโรป ทำให้ยุโรปไม่กล้าที่จะต่อกรกับรัสเซีย ซึ่งรัสเซียก็เคยยึดประเทศต่างๆมาแล้วก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นใครเมียหรือจอร์เจีย อ.มอฃง่าปูตินต้องการทำให้รัสเซีกลับไปยิ่งใหญ่เหมือนตอนสหภาพโซเวียต ประเทศอยู่ข้างๆยูเครนก็กังวลแน่นอน เพราะประเทศที่เป็นสมาชิกนาโต้ไม่ส่งทหารเข้าไปช่วยเลย

อาจารย์มองว่าตอนนี้ยุโรปอ่อนแอมาก ตอนนี้ก็รัสเซียได้เข้ายึดครองส่วนหนึ่งของประเทศยูเครนไปแล้วแต่ยังไม่ได้ทั้งประเทศ ส่วนจะรุนแรงได้ไหมอยู่ที่ว่ายูเครนจะต่อสู้แค่ไหน ซึ่งจริงๆแล้วอยู่ที่ว่าสงครามจะยืดเยื้อแค่ไหนและต้องดูว่าคนยูเครนจริงๆเนี่ยต่อต้านรัสเซียหรือไม่ เพราะหากมีการต่อต้านอย่างมากจากประชาชน ประเทศอื่นก็สามารถเข้าไปสนับสนุนได้อย่างเต็มที่

ส่วน ผลกระทบที่แย่ในเศรษฐกิจ ก็คือพลังงานตอนนี้นี่ขาดแคลนอยู่แล้ว ทำให้น้ำมันยิ่งขาดแคลนขึ้นไปอีก อ.มองว่าถ้าหากนาโต้ไม่สามารถช่วยยูเครนได้ จีนก็น่าจะไปยึดไต้หวันได้อย่างไม่ยากเย็น ปูตินเข้ายึดช่วงนี้เพราะว่าน้ำมันแพงบวกกับทางยุโรปนั้นเป็นหน้าหนาวจะต้องพึ่งพารัสเซียส่วนตอนนี้ตอนนี้ Shale gas มาช้าเนื่องจากถูกมองว่าทำลายธรรมชาติ โจไบเด้นไม่สนับสนุนไบเด้น อยากสู้กับรัสเซียยูเครนมากกว่าสู้กับจีนที่ไต้หวัน มอกว่าตรงไต้หวันนั้นไม่มีอะไรเลยที่อเมริกาได้เปรียบเหมือนแถบที่มีนาโต้

ตลาดหุ้นไทยไม่ค่อยกลัวเรื่องนี้ เเต่เรากระทบน้ำมันค่อนข้างเยอะมากกว่าเพราะว่าส่วนต่างจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้นทุนเราขึ้นสูงมากจนแทบจะไปพอดีกับจำนวนท่องเที่ยวที่เราคาดหวังที่จะเข้ามาเที่ยว GDP จะโตได้ยากขึ้น อาจจะหายไปถึงครึ่งหนึ่งหรือไม่โตเลยก็ได้อาจารย์บอกว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นแต่ไม่มีพลังงานใช้ทั้งโลก แล้วถ้าหากรัฐบาลไทยจะต้องกู้มาอุดหนุนราคาพลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดการขาดดุลการค้าขึ้นเงินบาทอ่อนค่าลงไปอีก

จีนเองก็ไม่ได้เข้าข้างรัสเซียในเรื่องของยูเครน เพราะไม่อยากถูกมองว่าเป็นอันธพาล แต่อาจารย์มองว่าจีนจะได้ประโยชน์มากที่สุดเพราะถ้าหมดนี่ไงว่าถ้ามีกาช่วยยูเครนไม่ได้ไต้หวันก็ไม่น่าช่วยได้เช่นกัน

ส่วนความกังวลว่าจะมีสภาพเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือไม่ อาจารย์ก็มองให้เทียบตอนสงครามโลกที่ 2 คือตอนนั้นฮิตเลอร์ไล่ยึดทุกคนก็ถอยจนถอยไม่ได้แล้วจึงเกิดสงคราม ต้องดูว่าสุดท้ายปูตินจะไล่จนถึงจุดที่ทนไม่ไหวหรือเปล่า เรายังคงต้องรอดูเหมือนกัน

อเมริกาเองมีปัจจัยเสี่ยงในด้านในเรื่องของเงินเฟ้อ ตอนนี้อเมริกามีปัญหาเรื่อง 1.แรงงานที่ขาดแคลนด้วย อันที่ 2 พลังงานราคาขึ้นอีก อันที่ 3 คือต้นทุนทางการเงินคือดอกเบี้ยขึ้นอีกที่เมกาทางออกที่เป็นไปได้มากที่สุดคือมีเทคโนโลยีที่ทดแทน 3 อย่างนี้ได้ซึ่งตอนนี้ก็ยังมองไม่เห็นเพราะ 3 อย่างนี้เป็นต้นทุนการผลิตทั้งสิ้น

เมกาแทบจะไม่สามารถที่จะทำ qe ต่อไปได้อีกแล้วเพราะว่าถ้ายิ่งทำคนจะยิ่งมองว่าถ้าไม่ใช้เงินตอนนี้สินค้าจะแพงขึ้นอีกและยิ่งมีตัวเลขเงินเฟ้อเข้าไปอีก

ปัจจัยพื้นฐานถึงแม้จะไม่รวมยูเครนยังไงดอกเบี้ยก็ต้องขึ้นอยู่แล้ว ส่วนความน่ากลัวคือตอนนี้หุ้นแพงนักลงทุนต้องรับรู้ได้แล้ว โดยเฉพาะหุ้น PE สูงถ้าเจอดอกเบี้ยขาขึ้น PEจะอยู่สูงไม่ได้จะต้องลงมาต่ำ มองว่าอีก 1-2 ปีข้างหน้าpe จะลงมา ถ้ากำไรไม่ดีจริงหุ้นตัวนั้นลงแน่นอน

อาจารย์มองว่าฟองสบู่ที่ใหญ่ที่สุดคือคริปโตและก็ได้แตกไปแล้ว และถ้าคนที่ถือคลิปโตยังมีความมั่นใจอยู่ก็อาจจะยังลงได้ไม่จบ แต่ถ้ามีความกลัวมากแล้วไม่อยากคุยอีกแล้วราคานั้นน่าจะเป็นจุดต่ำสุดได้

อาจารย์มองต่างจากนักวิเคราะห์นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าต้นปีจะไม่ดีและปลายปีจะดี แต่อาจารย์บอกว่าต้นปีและปลายปีจะหนักเพราะว่ามีการขึ้นดอกเบี้ยหลายรอบ ความโชคร้ายของไทยคือตอนที่เราจะฟื้นตัวแต่ต้องเจอปัญหาดอกเบี้ยและเงินเฟ้อเข้ามาโจมตี มองว่าปีที่ผ่านมาเราฉีดวัคซีนได้ไม่ดีพอทำให้ฟื้นตามโลกไม่ทัน ส่งออกพอไปได้บ้าง แต่่รัสเซียยึดยูเครนก็ไม่ง่ายนะถ้าหากเจอแบบกลุ่มกบฏสมัยอัฟกานิสถาน ประเทศยูเครนก็ไม่ได้เล็กอเมริกาก็สามารถสนับสนุนอาวุธได้ด้วย

สรุปก็คืออันที่ 1 มองว่านักลงทุนต้องดูว่ายูเครนเขาจะสู้แค่ไหนประชาชนรู้สึกอย่างไรกับรัสเซียอันที่ 2 ต้องดูว่าการคว้ำบาตรของอเมริกาและยุโรปนั้นรุนแรงและเข้มข้นแค่ไหน ความสำคัญสำหรับโจไบเดนในเรื่องของยูเครนคือยูเครนมีความสำคัญกับยุโรปและต้องไม่เป็นเยี่ยงอย่างให้จีนเห็น เพราะไม่งั้นในกรณีนี้จีนจะหยุดไต้หวันอย่างแน่นอน จากข้อมูลจีนพร้อมยึดใต้หวันใน 6 ปีข้างหน้านั้นเอง

====================

สนใจเครื่องมือ วิเคราะห์กองทุน ดูรายละเอียดได้ที่ www.goinvest.in.th

X