บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิวเคราะห์ฯแนะนำหุ้น บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ให้ราคาพื้นฐาน 83.25 บาท คาดว่าจะรายงานกำไรไตรมาส 2/64 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ เป็นอีกบริษัทที่จะได้รับผลกระทบจากสถาณการณ์โควิดจำกัด นอกจากนี้ GPSC เปิดเผยเข้าลงทุนบริษัท Avaada Energy Private Limited ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ในอินเดีย 41.6% มูลค่า 14,825 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งสิ้น 3,744 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วประมาณ 1,392 เมกะวัตต์และอยู่ระหว่างการก่อสร้างประมาณ 2,352 เมกะวัตต์ ช่วยหนุน sentiment การลงทุนวันนี้
เปิดมาตรการ เยียวยา 10 จว.ล็อกดาวน์ เพิ่มทุกสิทธิ
เผย รัฐบาล เปิดมาตรการ เยียวยาแรงงานและผู้ประกอบการ เพิ่มเติม โดยเพิ่มทุกสิทธิ ม.33-ม.39-ม.40 ขณะเพิ่มประเภทกิจการเป็น 9 สาขา ขยายพื้นที่คลุม 10 จังหวัดในพื้นที่สีแดงเข้ม เป็นระยะเวลา 1 เดือน
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือในระยะเร่งด่วน กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดฉบับที่ 27 เพื่อลดผลกระทบในระยะสั้น สำหรับกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการทั้งในและนอกระบบประกันสังคม โดยเป็นการทดแทนมาตรการช่วยเหลือตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2564 ระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือ 1 เดือน รายละเอียดดังนี้
1. ขยายพื้นที่ จากเดิม 6 จังหวัด กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร เพิ่มเติม 4 จังหวัด นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงชลา โดยเป็น 10 จังหวัดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
2 เพิ่มประเภทกิจการรวม 9 สาขา จากเดิม 4 หมวดกิจการ ได้แก่
(1) ก่อสร้าง (2) ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร (3) ศิลปะ บันเทิงและนันทนาการ (4) กิจกรรมบริการด้านอื่นๆ ตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด เพิ่ม 5 หมวดกิจกรรม ได้แก่ (5) ขายส่งและการขายปลีก ซ่อมยานยนต์ (6) ขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า (7) กิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน (8) กิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ และ (9) ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร
3. รูปแบบการให้ความช่วยเหลือ ในระบบประกันสังคม ตามมาตรา 33
– นายจ้างและผู้ประกอบการ รัฐบาลยังคงจ่ายให้นายจ้างตามจำนวนลูกจ้าง 3,000 บาทต่อหัว ต่อสถานประกอบการ สูงสุดไม่เกิน 200 คน
– ลูกจ้าง จ่ายเพิ่มเป็น 2,500 บาทต่อคน จากที่ลูกจ้างจะได้รับตามมาตรการช่วยเหลือเดิมเพียง 2,000 บาทต่อคน ซึ่งเมื่อรวมกับจ่ายชดเชยเยียวยาร้อยละ 50 ของรายได้ให้ลูกจ้าง สูงสุดไม่เกิน7,500 บาท ระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน ทำให้ผู้ประกันตน ม.33 สัญชาติไทย จะได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐไม่เกิน 10,000 บาทต่อคน
เพิ่มสิทธิให้ผู้ประกันตน ม.39 และ ม.40 ที่ประกอบอาชีพอยู่ในปัจจุบัน จะได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาทต่อคน สำหรับผู้ที่อยู่นอกระบบ ม.33 อาชีพอิสระ ขอให้ขึ้นทะเบียนกับประกันสังคม (ม.40) ภายในเดือน ก.ค. 64 เพื่อจะได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาทต่อคน
นอกระบบประกันสังคม
กลุ่มผู้ประกอบการ นายจ้าง กรณีมีลูกจ้าง ให้ขึ้นทะเบียนกับประกันสังคม (ม.33) ภายในเดือน ก.ค. 64 เพื่อที่นายจ้างจะได้รับเงินช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้าง 3,000 บาทต่อหัว ต่อสถานประกอบการ สูงสุดไม่เกิน 200 คน ขณะเดียวกันลูกจ้างสัญชาติไทยจะได้รับเงินช่วยเหลือ 2,500 บาทต่อคน กรณีที่ไม่มีลูกจ้าง ให้ลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ภายในเดือน ก.ค. จะได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาทต่อคน ขยายมาตราการช่วยเหลือเดิม ให้เฉพาะผู้ประกอบการในหมวดร้านอาหาร เครื่องดื่ม ในโครงการคนละครึ่ง ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับประกันสังคม ได้รับการช่วยเหลือ 3,000 บาท เท่านั้น
สำหรับผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” โครงการคนละครึ่ง และโครงการเราชนะ
– ขยายให้ความช่วยเหลือจากเดิมเฉพาะหมวดร้านอาหารและเครื่องดื่ม เป็น 5 กลุ่ม ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้าน OTOP ร้านค้าทั่วไป ร้านค่าบริการและกิจการขนส่งสาธารณะ (ไม่รวมกิจการขนาดใหญ่) กรณีที่มีลูกจ้าง ขอให้ขึ้นทะเบียนกับประกันสังคมภายในเดือน ก.ค. 64 เพื่อนายจ้างจะได้รับเงินช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้าง 3,000 บาทต่อคน ต่อสถานประกอบการ สูงสุดไม่เกิน 200 คน และลูกจ้างสัญชาติไทยจะได้รับเงินช่วยเหลือ 2,500 บาทต่อคน กรณีที่ไม่มีลูกจ้าง ให้ลงทะเบียนเป็นผู้ประกันสังคม (ม.40) ภายในเดือน ก.ค. 64 เพื่อจะได้รับเงินในอัตรา 5,000 บาทต่อคน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมถึงกรอบวงเงินสำหรับมาตรการช่วยเหลือกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการว่า จำนวน 30,000 ล้านบาท สำหรับมาตรการช่วยเหลือด้านการเงินและลูกหนี้สถาบันการเงินนั้น กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย จะหารือกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อดำเนินมาตรการผ่อนปรนการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย หรือการเลื่อนงวดการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าของสถาบันการเงินด้วย ซึ่งหลังจากนี้ ครม. ยังมีจะพิจารณามาตรการช่วยเหลือในระยะต่อไปโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศต่อไปด้วย
Cr. www.thairath.co.th
ตัวเลขการค้าของจีน และ สหรัฐ ขยายตัว
การค้าของจีนขยายตัวกว่า 30% ขณะที่เงินเฟ้อในสหรัฐฯ พุ่งสูงสุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกในปี 2008 และ Core CPI สูงสุดในรอบ 30 ปี
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญล่าสุดในวันนี้มีอยู่ 2 เรื่อง
1 .ตัวเลขการค้า (นำเข้า-ส่งออก) ของจีนประจำเดือนมิถุนายนซึ่งขยายตัวสูงกว่าคาดการณ์ทั้งหมด
โดยการส่งออกของจีนนั้นขยายตัวถึง 32.2% ในรูปของเงินดอลลาร์ (เทียบจากมิถุนายน 2020) ขณะที่การนำเข้าเติบโตถึง 36.7% และมีการเกินดุลการค้า 5.15 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ปัจจัยที่ขับเคลื่อนการค้าของจีนมาจากความต้องการสินค้าทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่าจีนที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกนั้นได้รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ
2. ตัวเลขเงินเฟ้อในดัชนีผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ประจำเดือนมิถุนายน ซึ่งขยายตัวเกินคาดเช่นกัน โดยล่าสุดพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกในปี 2008 เลยทีเดียว
นั้นดัชนี CPI พุ่งขึ้น 0.9% เมื่อเทียบจากเดือนพฤษภาคม 2021 และพุ่งขึ้นถึง 5.4% เมื่อเทียบจากมิถุนายนปี 2020 ขณะที่ดัชนี Core CPI ซึ่งไม่นับรวมสินค้าประเภทอาหารและพลังงานก็เพิ่มขึ้นถึง 4.5% จากปีก่อน สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1991 เลยทีเดียว (ในรอบ 30 ปี)อุตสาหกรรมยานยนต์มือ 2 มีสัดส่วนกว่า 1 ใน 3 ของ CPI ที่เพิ่มขึ้น และราคาที่พุ่งสูงขึ้นในสินค้าส่วนใหญ่ได้รับแรงผลักดันจากการที่สหรัฐฯ เปิดเศรษฐกิจในวางกว้างขึ้น
❗🚀รายได้ของสำนักงานกำกับกิจการอวกาศฯ ไม่ต้องนำส่งแผ่นดิน
-ครม.เคาะร่าง พ.ร.บ.กิจการอวกาศ ให้ นายกฯ นั่งปธ.นโยบายอวกาศแห่งชาติ
.
วันที่ 13 ก.ค. 2564 รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เนื่องจากภารกิจด้านกิจการอวกาศมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) GISTDA รายงานว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอวกาศและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกว่า 35,600 กิจการ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศได้ประมาณ 56,122 ล้านบาทต่อปี แต่ที่ผ่านมานโยบายการบริหารกิจการอวกาศของประเทศไทย ยังมีข้อจำกัดทางกฎหมายที่ไม่ครอบคลุมปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากการดำเนินกิจกรรมอวกาศในหลายส่วนที่สำคัญ จึงจำเป็นต้องกำหนดผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการกำกับและดำเนินการ จดทะเบียนวัตถุอวกาศ รวมทั้งพันธกรณีระหว่างประเทศด้านอวกาศที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคี
.
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการด้านกิจการอวกาศเป็นไปด้วยความเหมาะสม สอดคล้องกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และภาครัฐสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศได้เพิ่มมากขึ้น ครม. จึงอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.กิจการอวกาศ พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ เพื่อกำหนดให้มีองค์กรทำหน้าที่จัดทำนโยบายและแผนกิจการอวกาศ รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์และให้บริการรับคำขอและชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการอนุญาตต่างๆ ด้านอวกาศ
.
ซึ่งร่าง พ.ร.บ.มีสาระสำคัญ อาทิ กำหนดให้มีนโยบายและแผนกิจการอวกาศ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการพัฒนากิจการอวกาศก่อให้เกิดเศรษฐกิจอวกาศ (New Space Economy) กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทำหน้าที่กำหนดนโยบายกิจการอวกาศตามขอบเขตของพระราชบัญญัติ
.
กำหนดให้ ครม. จัดสรรทุนประเดิมให้แก่สำนักงานกำกับกิจการอวกาศแห่งชาติระยะเริ่มแรกตามความจำเป็น และให้นายกรัฐมนตรี เสนอต่อ ครม. เพื่อพิจารณาให้ข้าราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานอื่นใดในหน่วยงานของรัฐ มาปฏิบัติงานเป็นพนักงานของสำนักงานฯ เป็นการชั่วคราวภายในระยะเวลาที่ ครม. กำหนด
.
กำหนดให้รายได้ของสำนักงานกำกับกิจการอวกาศแห่งชาติ ตกเป็นของหน่วยงานเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินงานต่างๆ ที่เหมาะสม โดยไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
.
รัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า เศรษฐกิจอวกาศ (New Space Economy) เป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ โดยใช้ทรัพยากร เทคโนโลยี และองค์ความรู้จากการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ ซึ่งขับเคลื่อนผ่านธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจให้บริการนำส่งดาวเทียม ธุรกิจให้บริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียม ธุรกิจสำรวจอวกาศ ธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูลจากดาวเทียมสำรวจทรัพยากร ธุรกิจการวิจัยและทดลองในอวกาศ ธุรกิจออกแบบและพัฒนาจรวดหรืออวกาศยาน ธุรกิจการท่องเที่ยวในอวกาศ เป็นต้น
.
อ่านต่อ https://www.voicetv.co.th/read/YLQ6fA3I_
.
VoiceOnline
COVID
ประยุทธ์จันทร์โอชา
หุ้นเทคโนโลยีการชำระเงินพุ่งขึ้นเนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงแข็งแกร่ง
หุ้นบัตรเครดิตและหุ้นเทคโนโลยีการชำระเงินช่วยบรรเทาการลงของหุ้นทางการเงินในวันนี้ได้ หลังประกาศงบ Q2 2021
การใช้จ่ายของผู้บริโภค มีการคาดว่าจะยังคงแข็งแกร่ง หุ้นที่ดำเนินการชำระเงินจึงได้รับประโยชน์ ในเดือนมิถุนายนคาดว่าการใช้จ่ายภาคครัวเรือนจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ ในการสำรวจความคาดหวังของผู้บริโภคเมื่อวานนี้ซึ่งออกโดยเฟดนิวยอร์ก
ARK Fintech Innovation ETF (NYSEARCA:ARKF) + 0.6% , Global X Fintech Thematic ETF (NASDAQ:FINX) + 0.5%.
Mastercard (NYSE:MA) + 2.8% , Visa (NYSE:V) +1.7%
(NASDAQ:PYPL) + 1.2%, Fidelity National Information (NYSE:FIS) + 1.6%, Fiserv (NASDAQ:FISV) +1.5%, Global Payments (NYSE:GPN) + 1.1%, and Square (NYSE:SQ) + 0.5%
Nasdaq เป็นผู้นำ S&P 500, Dow Jones จากการพุ่งขึ้นของหุ้นเทคโนโลยีและYield curve นิ่ง
The Nasdaq (COMP.IND) +0.4%
Thd Dow (DJI) -0.2% เพราะ Goldman และ J.P. Morgan และราคาลดลงอย่างมาก หุ้นการเงิน (XLK) โดนเทขายประกาศมีกำไรQ2 2021
Yield curveกำลังลดลงหลังจาก CPI หลักแสดงให้เห็นว่าราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 30 ปี Yield curve10 ปีลดลง 1 จุดเป็น 1.35%
หุ้นแบงค์อเมกาลง หลังงบออกหุ้น !!!
JPMorgan Chase (JPM -1.7%) และ Goldman Sachs (GS -1.8%)
JPM รายงานงบ Q2 2021 สินเชื่อเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 1% Q/Q, เงินฝากเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 4% Q/Q, ค่าธรรมเนียม Corporate & Investment Bank เพิ่มขึ้น 25% Y/Y และ core EPS/ROTCE ex-reserve release “ยังคงแข็งแกร่งมาก
⭐⭐Plant-Based Foods: กำลังเติบโตไว !!! [Excusive report member only]⭐⭐
🔥 ในปี 2020 มีการลงทุนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2.15 พันล้านดอลลาร์ในบริษัทอาหารจากพืชทั่วโลก เพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่าในปี 2019 และยอดค้าปลีกอาหารจากพืชในสหรัฐฯ เติบโตเร็วเป็นสองเท่าของยอดขายอาหารโดยรวมที่แตะระดับ 7.0 พันล้านดอลลาร์
🔥 อุตสาหกรรมนี้กำลังจะข้ามจากเฉพาะกลุ่มไปสู่กระแสหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความก้าวหน้าในการปรับปรุงรสชาติ โภชนาการ และต้นทุนโดยรวมของผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช
🔥อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์จากพืชมีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์จากพืชทั่วโลกจะสูงถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 คิดเป็น CAGR 10 ปีที่ประมาณ 20%-25%
🔥ผลิตภัณฑ์นมจากพืชเติบโต 20% ในปี 2020 เป็น 2.5 พันล้านดอลลาร์ (เร็วกว่านมโคสองเท่า) ในสหรัฐอเมริกา การเข้าสู่ครัวเรือนประมาณ 39% ในสหรัฐอเมริกาสำหรับนมจากพืช หมายถึงประมาณ 4 ใน 10 ของสหรัฐอเมริกา ครัวเรือนซื้อนมจากพืช
Oatly บริษัทนมข้าวโอ๊ตรายใหญ่ที่สุดของโลก ประเมินนมจากพืชทั่วโลกยอดขายเติบโต 20% ถึง 25% ในอีกสามปีข้างหน้า การเติบโตของการบริโภคกาแฟ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกิน และอิทธิพลจากกระแสโลกเช่นความยั่งยืนและโภชนาการเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตนี้
หุ้นที่เกี่ยวข้อง
Archer-DanielsMidland Company (ADM) , Beyond Meat, Inc. (BYND ) , Bunge Limited (BG) , Conagra Brands, Inc. (CAG) , Costco Wholesale Corporation (COST) , Hormel Foods Corporation (HRL) , Ingredion Incorporated (INGR) , Kellogg Company (K) , The Kraft Heinz Company (KHC) , The Kroger Co. (KR) , Sysco Corporation (SYY) , Tyson Foods, Inc. (TSN) , United Natural Foods (UNFI) , US Foods Holding Corp. (USFD)
SECTER Update 13/7/2021
IEA เตือนตลาดน้ำมันที่ตึงตัวมากขึ้น !!!.
IEA เตือนตลาดน้ำมันที่ตึงตัวมากขึ้น เว้นแต่ว่ากลุ่มพันธมิตร OPEC+ จะแก้ไขความขัดแย้งและตกลงที่จะเพิ่มการผลิต
การขาดดุลอุปทานที่ทวีความรุนแรงขึ้น” ด้วย “ศักยภาพที่ราคาน้ำมันสูงจะกระตุ้นเงินเฟ้อและสร้างความเสียหายต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เปราะบาง” น้ำมันดิบเบรนท์ซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีเหนือ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ OPEC+ อยู่ในขั้นตอนของการอนุมัติแผนฟื้นฟูผลผลิตรายเดือนที่ 400,000 บาร์เรลต่อวันจนถึงปลายปี 2022 การเจรจาของกลุ่มล้มเหลวเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม หลังจากพยายามหาข้อตกลงเป็นครั้งที่สาม และแม้จะมีความพยายามไกล่เกลี่ย แต่ก็ยังไม่สำเร็จ