Category: Breaking News

• Japan +0.55%.
• China +0.53%
• Hong Kong +1.58%.
• Australia +0.24%
• U.S. futures are mixed at the start of the day. Dow -0.04%, S&P -0.07%, Nasdaq +0.05%.

Summary :
นักเก็งกำไรเริ่มกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยทั้งสัญญาค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทองคำและพันธบัตรรัฐบาล

ดือน มิ.ย. Upcoming Events (13 ก.ค.) ติดตามการประชุม ครม. ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดเผยมาตการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdown ครั้งใหม่ (15 ก.ค.)

รายงาน GDP ไตรมาส 2 ของจีน ซึ่ง Bloomberg consensus คาดจะขยายตัว 8.0% YoY ( vs. 18.2% ไตรมาสก่อน) สะท้อนเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจาก COVID-19 ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดยรายงานตัวเลขดังกล่าวนับเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินและการคลังในช่วงครึ่งหลังของปีของรัฐบาลจีน

ที่จะพิจารณาในการประชุม Politburo ปลายเดือนนี้ (15-16 ก.ค.) การประชุม BoJ ซึ่งคาดจะคงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างมากต่อไป โดยสิ่งที่ต้องจับตาในการประชุมครั้งนี้คือ

1) ประมาณการเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งคาดจะปรับลดประมาณการปี FY2021F ลง (เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศยังยืดเยื้อ จนนำไปสู่การบังคับใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินอีกครั้งเมื่อวันที่ 25 เม.ย.-20 มิ.ย.)

2) การเปิดเผยรายละเอียดของโครงการเงินกู้สนับสนุนธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม หลังจากที่ได้มีการเปิดตัวโครงการดังกล่าวในการประชุมครั้งก่อน (กลางเดือน ก.ค.) IMF จะออกรายงานทบทวนประมาณการเศรษฐกิจฉบับใหม่ โดยประมาณการครั้งก่อน IMF ได้คาด GDP โลกปีนี้และปีหน้าจะเติบโตที่ 6.0% และ 4.4% ตามลำดับ ทั้งนี้ นับจากประมาณการครั้งก่อน แม้กิจกรรมในภาคส่งออกของประเทศส่วนใหญ่จะฟื้นตัวได้ดี แต่ความเสี่ยงหลักต่อเศรษฐกิจก็ยังคงอยู่ จากสถานการณ์ COVID-19 ที่มีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะความเสี่ยงที่สายพันธุ์ Delta อาจแพร่กระจายทั่วโลกอย่างรวดเร็ว อีกทั้งการแจกจ่ายวัคซีนยังมีความแตกต่างกันมากในแต่ละประเทศ

บมจ.อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย (RBF) และ บริษัท พรีเมี่ยมฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ RBF ถือหุ้น 99.99% ได้ยื่นขอรับอนุญาตเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชงกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไปแล้วนั้น

ในปีนี้บริษัทยังสามารถรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 3 โครงการใหม่ ในประเทศเวียดนาม กำลังการผลิตรวม 550 เมกะวัตต์ เข้ามาเต็มที่ตลอดทั้งปี หลังจากเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงปลายปี 63 ดังนั้น บริษัทจึงคาดจะส่งผลทำให้รายได้รวมปี 64 เติบโตแตะ 10,000 ล้านบาทได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากปีก่อนที่มีรายได้ 6,768.34 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่ภาครัฐจะเปิดประมูลราวกำลังการผลิต 400 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันก็อยู่ระหว่างติดตามประเด็นดังกล่าวว่าจะมีรายละเอียดออกมาอย่างไร ซึ่งเบื้องต้นบริษัทคาดว่าภาครัฐน่าจะสามารถเปิดประมูลได้ในครึ่งปีหลัง โดยวางเป้าหมายจะยื่นประมูลอย่างน้อย 100 เมกะวัตต์

นายนันทิยะ ดารกานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วินเนอร์ยี่ เมดิคอล (WINMED) เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลเตรียมอนุมัติให้ใช้ชุดตรวจโควิดได้ด้วยตัวเอง เพื่อช่วยลดระยะเวลาและปัญหาการแออัดในการรอรับบริการการตรวจคัดกรอง ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเร่งออกสินค้าใหม่ 2-3 กลุ่ม เกี่ยวกับชุดตรวจคัดกรองโควิด-19 ด้วยตนเอง ประกอบด้วย ชุดตรวจคัดกรองโควิด-19 ด้วยตนเอง แบบเร่งด่วน (Rapid Test) ด้วยวิธีการเก็บตัวอย่างจากทางโพรงจมูก และน้ำลาย เป็นชุดตรวจเชื้อด้วยตนเอง ที่ทำได้ง่าย รู้ผลเร็วภายใน 15 – 30 นาที เป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้นเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสและภูมิคุ้มกัน ก่อนเข้ากระบวนการตรวจชนิดยืนยันผลจากห้องปฏิบัติการ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรและนำเข้ามาเพื่อขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

ขณะที่ ผลิตภัณฑ์ตรวจยืนยัน โควิด-19 (RT-PCR) สามารถตรวจจับเชื้อไวรัสได้อย่างแม่นยำ ทราบผลการติดเชื้อหลังจากตรวจแล้วภายใน 24 ชั่วโมง อยู่ระหว่างรอการอนุมัติขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์จาก อย. คาดว่าจะแล้วเสร็จและเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 3/64

อย่างไรก็ตาม บริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโตจากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น โดยจะเร่งจัดหาและเตรียมออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรมป้องกันเชื้อไวรัส อาทิ หน้ากากอนามัย และ ชุดอุปกรณ์ตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถตรวจคัดกรองได้ด้วยตนเอง ที่มีประสิทธิภาพ มีความแม่นยำ และรวดเร็ว เข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการประชาชนในวงกว้าง อีกทั้งเพื่อช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้น เพิ่มความรวดเร็วในการทราบผลว่าตนเองติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ ช่วยให้สถานพยาบาล โรงพยาบาล สามารถคัดกรองระดับอาการนำไปสู่การรักษาได้ทันเวลา ช่วยลดอัตราการสูญเสียได้

Yellen ประกาศถึงความต้องการที่จะซ่อมแซมความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ – สหภาพยุโรป โดยเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกของกลุ่ม EU ช่วยเผชิญหน้ากับจีนและรัสเซีย

“ร่วมมือกัน ! เราต้องตอบโต้การคุกคามต่อหลักการที่เปิดกว้าง, การแข่งขันที่เป็นธรรม, ความโปร่งใส และความรับผิดชอบ”

“ความท้าทายเหล่านี้รวมถึงการปฏิบัติทางเศรษฐกิจที่ไม่เป็นธรรมของจีน พฤติกรรมที่มุ่งร้าย และการละเมิดสิทธิมนุษยชน การละเมิดอย่างต่อเนื่องของระบอบ Lukashenka ในเบลารุส และพฤติกรรมมุ่งร้ายที่เพิ่มสูงขึ้นของรัสเซีย”คำพูดดังกล่าวตอกย้ำความตั้งใจของประธานาธิบดี Joe Biden ที่จะแก้ไขพันธสัญญาข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อเผชิญหน้ากับจีนอย่างจริงจังในประเด็นทางเศรษฐกิจ โดยก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์แย่ลงในยุคของทรัมป์ เนื่องจากสหรัฐฯ ได้เพิ่มความขัดแย้งทางการค้ากับสหภาพยุโรปและมุ่งเน้นไปที่เรื่องสิทธิมนุษยชนเพียงเล็กน้อย

https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-07-12/yellen-looks-to-revive-u-s-eu-ties-in-facing-down-china-russia

เห็น EPG ราคาวิ่งแรงมาหลายวันมาส่องงบการเงินกันว่ามีอะไรน่าสนใจหรือไม่หรือไม่มาดูกันครับ

EPG ทำธุรกิจหลักในการแปรรูปพลาสติก มีสินค้า 3 ประเภทคือ ฉนวนยางกันความร้อนและความเย็น “AEROFLEX” อุปกรณ์ชิ้นส่วนตกแต่งรถยนต์ “AEROKLAS” และ บรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้เครื่องหมายการค้า “EPP”

ในปี 2563 รายได้ 10,217.4 ล้านบาท เป็นรายได้จาก AEROKLAS เยอะสุด 46.2% รองลงมาเป็น AEROFLEX 29.5% และ EPP 24.3% ถ้าชิ้นส่วรถยนต์ AEROKLAS เริ่มฟื้น EPG จะกลับมาฟื้นได้

หลายปีที่ผ่านมา EPG รายได้เติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจแต่กำไรไม่โตเนื่องจาก การใช้กำลังการผลิตยังไม่เต็มการผลิตทำให้ต้นทุนการผลิตสูง และปัญหาต้นทุนวัตถุดิบที่ตึงตัว ทำให้อัตรากำไรขั้นต้น EPG ต่ำ กำไรสุทธิไม่โต

หลังจากช่วง COVID ยอดขายของ EPG เริ่มกลับมาในทุกธุรกิจจากปรากฎการณ์ Restock ขึ้นทั่วโลก ทำให้ความต้องการสินค้าของ EPG เพิ่มขึ้น ฝ่ายวิจัยของ KGI ใต้หวันมองว่าเหตุการณ์นี้จะจบประมาณกลางปี 2565

อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้นจากราคาพลาสติกที่ลดลงแต่เริ่มตึงตัวในไตรมาสที่ผ่านมาแต่หลังจากเดือนเมษาเริ่มราคาเริ่มอ่อนตัว อาจทำให้ไตรมาสต่อไปอัตรากำไรเริ่มกลับมา (ถ้าไม่มาก็ตัวใครตัวมันจ้า)

แล้ว EPG มีอะไรน่าสนใจ

1) กาไรปีนี้ลุ้น All time high แต่ราคาหุ้นยังไม่ High จากบทวิเคราะห์ของ KGI มองว่า รายได้ของ EPG ปีนี้จะเติบโต แรงหนุนจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกหลัง COVID การ restock ของโรงงานต่างๆทั่วโลก ธุรกิจฉนวนความร้อนเย็น เริ่มใช้กำลังการผลิตกว่า 80% คาดรายได้โต 10% ธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ ฟื้นตัวตามภาพรวมกลุ่ม auto ทั่วโลก กลุ่มบรรจุภัณฑ์ได้ประโยชน์จาก COVID ทำให้มีความต้องการกล่องบรรจุอาหาร และแก้วพลาสติกเพิ่มขึ้น

2) ถ้า EPG จะไปต่อต้องเห็นสัญญาณอะไร จากบทวิเคราะห์หลายๆเจ้ามองกำไรจะเติบโตจากการฟื้นตัวของยอดขาย และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจาก การใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น

ข้อมูลธุรกิจ EPG EPG ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) มีการลงทุนหลักในธุรกิจแปรรูปพลาสติก ได้แก่

(1) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายฉนวนยางกันความร้อนและความเย็น ดำเนินการโดย บริษัท แอร์โรเฟลกซ์ จำกัด (AFC) ซึ่งเป็นบริษัทแกน ภายใต้เครื่องหมายการค้า “AEROFLEX”

(2) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ชิ้นส่วนตกแต่งรถยนต์ ดำเนินการโดย บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด (ARK) ภายใต้เครื่องหมายการค้า “AEROKLAS” และ

(3) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติก ดำเนินการโดย บริษัท อีสเทิร์น โพลีแพค จำกัด (EPP) ภายใต้เครื่องหมายการค้า “EPP”

—————————————-

สนใจเข้าห้อง กองทุนเด่น กดที่เข้ากลุ่มที่ link ด้านล่างได้เลยครับ https://www.facebook.com/groups/1024143218389426/

——————————————-

สนใจ เครื่องมือสแกนหุ้น / สอบถามรายละเอียด add line https://bit.ly/3tgVS0A

เมื่อคืนเวลาประมาณ 4 ทุ่มบ้านเรา เครื่อง VSS Unity ของ Richard Branson ได้พาผู้โดยสานขึ้นไปสัมผัสอวกาศโดยเครื่อง VSS Unityมีความเร็วถึง 3 มัค จากปล่อยจากยานแม่ VMS Eve และไปถึงระดับความสูง 53.5 ไมล์ มันยังคงอยู่ในอวกาศเป็นเวลาหลายนาทีก่อนที่จะกลับสู่โลก

แบรนสันเชื่อว่ามีตลาดนี้มีผู้ที่ต้องการขึ้นไปสัมผัสถึง 2 ล้านคน มูลค่าตลาด $1T โดยประมาณอุตสาหกรรมยังสามารถขยายตัวได้ เที่ยวบินท่องอวากาศในอนาคตราคาต่อตั๋วอยู่ที่ 200,000-250,000 ดอลลาร์

เขาเอาชนะ Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon ซึ่งมีกำหนดจะบินในเรือ New Shepard ของ Blue Origin ในวันที่ 20 กรกฎาคม นี้

ความสำเร็จของ Richard Branson

Microsoft (NASDAQ:MSFT) ตกลงซื้อบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ความปลอดภัย RiskIQ มูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ โดยข้อตกลงที่คาดว่าจะประกาศในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

RiskIQ ซึ่งเป็นบริษัทที่สร้างซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์สำหรับตรวจจับภัยคุกคามด้านความปลอดภัย ลูกค้าของบริษัท ได้แก่ Facebook, BMW, American Express และ U.S. Postal Service

การซื้อครั้งนี้ จะทำให้ Microsoft ได้เพิ่มคุณสมบัติด้านความปลอดภัยให้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น Windows และบริการคลาวด์ Azure เพื่อตรวจจับการโจมตีบนเครือข่าย

Cr.Bloomberg รายงาน

ล่าสุดวันศุกร์ที่ผ่านมา Sector Industrial ฟื้นตัว สามารถ +1.6% หลังจาก week ก่อนหน้านี้ ราคาลงมาต่อเนื่อง

หุ้นที่เกี่ยวข้อง

Honeywell International Inc

United Parcel Service Inc Class

Union Pacific Corp

Boeing Co

Raytheon Technologies Corp

Caterpillar Inc

General Electric Co

3M Co

Deere & Co

Lockheed Martin Cor