จีนเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.โตเพียง 6.4%.สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS ) รายงานในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือนก.ค.ขยายตัว 6.4% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจะขยายตัว 7.8% โดยตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างมาก
ยอดค้าปลีกของจีนชะลอตัวลงสู่ระดับ 8.5% ต่อปีในเดือนก.ค. ลดลงจากระดับ 12.1% ที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ อัตรานี้ชะลอตัวลงตั้งแต่เพิ่มขึ้นเป็น 34.2% ต่อปีในเดือนมีนาคม การตกต่ำส่วนใหญ่เกิดขึ้นในสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากผลกระทบของตัวแปรเดลต้า ยอดขายปีจนถึงปัจจุบันลดลงเหลือ 20.7% ต่อปี เทียบกับ 23.0% ปีก่อนปี การผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนมิถุนายนก็ลดลงมาอยู่ที่ 6.4% ต่อปี เทียบกับ 8.3% ในเดือนมิถุนายน โดยภาคการผลิตได้รับผลกระทบ โดยลดลงมาอยู่ที่ 6.2% ต่อปี เทียบกับ 8.7% ของปีก่อนหน้า การฟื้นตัวได้สูญเสียโมเมนตัมไปแล้ว และรายงานเหล่านี้เป็นหลักฐานเพิ่มเติม โดยตัวแปรเดลต้าน่าจะทำให้การเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้น ข้อมูลควรมีน้ำหนักมากขึ้นในตราสารทุน
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ เรื่องการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆในการทวงถามหนี้ ไม่เกิน 1 พันบาท ซึ่งจะมีผลบังคับหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา 30 วัน เป็นต้นไป โดยจะเป็นประโยชน์ต่อลูกหนี้รายย่อยกว่า 12.24 ล้านบัญชี
นายอนุชา ฯ ยังกล่าวว่า เป็นผลจากการทำงานทุกฝ่ายร่วมกันในรัฐบาล โดยคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ที่มีพลเอก อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานได้เร่งดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้กำหนดมาตรการทวงถามหนี้ที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชน โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทยทึ่ร่วมกันผลักดันการประกาศเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ ภายในต้นเดือนกันยายน 2564 นี้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้รับข้อร้องเรียนเรื่องการเรียกเก็บค่าทวงถามหนี้ที่ไม่เป็นธรรม ปีละหลายพันเรื่อง ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาหนี้สินที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนรายย่อยโดยตรงซึ่งความเดือดร้อนที่พบสามารถแบ่งได้ 3 ส่วน ดังนี้
คณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ ได้ประกาศกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ในการทวงถามหนี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 มีสาระสำคัญ ดังนี้
การประกาศกำหนดอัตราค่าทวงถามหนี้ที่ชัดเจนในครั้งนี้ จะช่วยให้ลูกหนี้ได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเหมือนสภาวะสุญญากาศที่เจ้าหนี้สามารถเรียกเก็บค่าทวงถามหนี้กี่บาทก็ได้ และกี่ครั้งก็ได้ แต่ในอนาคตจากนี้ไป การทวงถามหนี้จะมีกติกาที่ชัดเจนขึ้น เช่น ในกรณีสินเชื่อทั่วไป ถ้ามีการผิดนัดชำระหนี้ 4 งวด จะเก็บค่าทวงถามในแต่ละงวดเพียง 50, 100, 100, 100 บาทรวมเป็น 350 บาท. ในขณะที่ถ้าเป็นกรณีสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่มีค่าทวงถามหนี้ภาคสนามจะอนุญาตให้เก็บค่าทวงถามหนี้ภาคสนามได้ไม่เกินงวดละ 400 บาท โดยเริ่มเก็บได้ในงวดที่ 2 และต้องหยุดเมื่อมีการบอกเลิกสัญญา
ทั้งนี้ ในกรณีที่ประชาชนพบการเรียกเก็บค่าทวงถามหนี้ในอัตราที่สูงกว่าอัตราที่คณะกรรมการฯกำหนด หรือพบการทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ไม่เหมาะ สามารถร้องเรียนมาที่คณะกรรมการทวงถามหนี้ โทร 1567 สายด่วน ศูนย์ดำรงธรรม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ส.ค. 64)
ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมากกว่า 1% ในวันจันทร์ ลดลงเป็นครั้งที่สาม เนื่องจากรัฐบาลกำหนดข้อจำกัดในการเคลื่อนย้ายเพื่อตอบโต้การแพร่กระจายของตัวแปรเดลต้าทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความต้องการเชื้อเพลิงที่ฟื้นตัว
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง 80 เซนต์หรือ 1.1% ที่ 69.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายในเวลา 0046 GMT หลังจากลดระดับลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
น้ำมันสหรัฐร่วงลง 81 เซนต์หรือ 1.2% สู่ 67.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ANZ Research ระบุในหมายเหตุว่า “น้ำมันดิบยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน เนื่องจากการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของเดลต้า coronavirus ทำให้เกิดเมฆเหนือแนวโน้มอุปสงค์”
ซิดนีย์, 16 ส.ค. (สำนักข่าวรอยเตอร์) – ตลาดหุ้นเอเชียเริ่มต้นสัปดาห์ก่อนอย่างระมัดระวังในวันจันทร์ ก่อนข้อมูลจีนจำนวนมากที่อาจยืนยันการชะลอตัวของเศรษฐกิจขนาดยักษ์ ในขณะที่การแข่งขันระดับโลกจำนวนมากจะขัดขวางการแพร่กระจายของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ ตัวแปรของ COVID-19 กับการฉีดวัคซีน
ตัวเลขยอดขายปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนในเมือง คาดว่าจะแสดงการลดลงเล็กน้อยในกิจกรรมในประเทศจีนในเดือนกรกฎาคม แนวโน้มมีแนวโน้มที่จะแย่ลงจากข้อจำกัดของ coronavirus ที่เข้มงวดเมื่อเร็ว ๆ นี้
มีความไม่แน่นอนบางประการเกี่ยวกับนัยยะทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจเกิดขึ้นจากการล่มสลายอย่างกะทันหันของรัฐบาลอัฟกานิสถานและความหมายของเสถียรภาพทางการเมืองในภูมิภาคนี้
Bruce Kasman นักเศรษฐศาสตร์ของ JPMorgan กล่าวว่า “อัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำของเอเชียและความทนทานต่อการแพร่กระจายในชุมชนต่ำ ชี้ให้เห็นว่าภูมิภาคนี้เป็นภูมิภาคที่มีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจมากที่สุดจากตัวแปรเดลต้า
ตลาดบรรจุภัณฑ์กระดาษทั่วโลกคาดว่าจะ
เติบโตที่อัตราการเติบโตต่อปีประมาณ
4.5% ในช่วงปี 2563-2569
Disney พุ่ง 5% หลัง ยอดสมาชิกเพิ่มเกินความคาดหมายของตลาด
วอลท์ ดิสนีย์ (NYSE:DIS) เพิ่มขึ้น 5% หลังจากผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมา ซึ่งทำผลงานเหนือความคาดหมาย เพราะกำไรสุทธิออกมาดี เกินคาด บริษัทพลิกกลับไปเป็นกำไร $995 million จากขาดทุน $4.84 billion ในปีที่แล้วสาเหตุทที่กำไรออกมาดีเพราะว่า สมาชิกบริการสตรีมมิ่ง Disney+ เพิ่มขึ้นนั้นเอง
Disney+ มีจำนวนสามาชิกถึง 116 ล้านคน เทียบกับที่คาดไว้ 112.8 ล้านคน
องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกอาจทะลุระดับ 300 ล้านรายภายในต้นปีหน้า หากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงดำเนินต่อไปในทิศทางปัจจุบัน และได้เรียกร้องให้บรรดาผู้นำทั่วโลกชะลอการแพร่ระบาดด้วยการให้ความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์ตรวจเชื้อ, การรักษา และวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แก่บรรดาประเทศยากจน
บรรดาเจ้าหน้าที่ของ WHO ได้เปิดเผยถึงความต้องการเงินทุน 7.7 พันล้านดอลลาร์อย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยในการแจกจ่ายวัคซีน, ออกซิเจน และการรักษาพยาบาลในประเทศที่มีรายได้ต่ำ ขณะที่นายแพทย์ทีโดรสผลักดันให้มีการจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มทางเลือกในการรักษาผู้ติดเชื้อตั้งแต่อาการน้อยจนถึงอาการรุนแรง
ด้าน Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลกรายงานเมื่อวานนี้ว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกสะสมนั้นมีจำนวน 205,103,455 รายแล้ว และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 4,332,308 ราย โดยสหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (36,897,983) รองลงมาคืออินเดีย (32,052,127) และบราซิล (20,213,388)
www.who.int
หุ้นเอเชียร่วงเมื่อวันศุกร์เนื่องจากการแพร่กระจายของตัวแปรเดลต้า Covid-19 และการควบคุมกฎระเบียบของจีนได้ยับยั้งความรู้สึกแม้ว่าจะมีการปิดสูงเป็นประวัติการณ์
ภาคเทคโนโลยีนำความสูญเสียส่วนหนึ่งมาจากการถอยของบริษัทผู้ผลิตชิปที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นเกาหลีใต้
หุ้นผันผวนในญี่ปุ่นและร่วงลงในจีนและฮ่องกง
สัญญาของสหรัฐทรงตัวหลังจาก S&P 500 แตะระดับสูงสุดใหม่และ Nasdaq 100 ที่มีเทคโนโลยีสูงก็ปรับตัวขึ้น
ธปท.จ่อมาตรการ ช่วยลูกหนี้อีกครั้ง
คราวนี้แบบแก้ระยะยาว
วานนี้ติดเชื้อ 22,782 ราย วัคซีน#1
23.7%, #2 6.7%
วานนี้ (12) เอเชีย -0.2% อาเซียน
-0.3%
ผู้ขอรับสวัสดิว่างงานลดลง 12,000
ราย จากสัปดาห์ก่อน
Dow +0.4% +15 จุด ทำนิวไฮ ลุ้น
เงินเฟ้อ peak แล้ว?
BBL
