💥คุยหุ้น Lanna ขึ้นแบบไม่มีอะไรมากั้น ปัจจัยน่าติดตามวันนี้ 📌update หุ้น Lanna 📌การประเมินมูลค่า (กรณีศึกษาเท่านั้น)
(กรณีศึกษาเท่านั้น ทำการบ้านกันต่อเองด้วยนะครับ)
ITEL โบรคให้เป้ามา เรามาคิดถึง ILINK กันบ้าง
OCEAN Update แบบไม่มีอะไรมากั้น
สิ่งที่น่าสนใจ วันนี้
แผนของรายได้ของ บริษัท OCEAN ปีนี้ (2021) ผบห มองว่าจะ มีสัดส่วน ธุรกิจอสังหา 95% ธุรกิจ CBD 5% ซึ่ง CBD เองนั้นจะเริ่มสร้างรายได้ในช่วง Q4 2021 ถือว่าเป็นธุรกิจใหม่ที่บริษัทมองว่า เป็น new S Curve และจะสร้างการเติบโต ต่อไปได้ใน ปี 2022 สัดส่วนรายได้อาจจะเปลี่ยนเป็น ธุรกิจอสังหา 40-50% CBD 20% และ อื่นๆ 20% กำลังศึกษาอยู่
ธุรกิจ CBD ล่าสุดบริษัทได้นำเข้าเครื่องจักร มาแล้ว และว่าจ้างให้ JSP เป็นผู้ผลิตสินค้าให้ โดยบริษัท จะทำการควบคุม ตั้งแต่แหล่ง supply กัญชง ร่วมถึงการหาลูกค้า โดยมี JSP เป็น พาร์ทเนอร์ ( ซึ่งเป็นผู้ที่มีใบอนุญาต GMP PIC/S สำหรับผลิตยาได้ ขอได้ยากกว่า GMP Food ) นั้นหมายความว่า OCEAN ลดขั้นตอนการขอใบอนุญาตไปได้เลย
CBD สินค้าที่จะสามารถออกจำหน่าย ได้ดังนี้ Full Spectrum , Broad Spectrum , CBD Isolate สำหรับเครื่องจักรที่ บริษัท เลือกลงทุน มีจุดเด่น ตรงการผลิต CBD Isolate สาร CBD ที่ได้ออกมา สามารถละลายน้ำได้ทันที สร้างความสะดวกและลดขั้นตอนการแปรรูปให้ลูกค้า ของ OCEAN นั้นเอง
CBD Isolate ผบห ให้มุมมองว่า ปัจจุบัน มูลค่าตลาดอยู่ที่ 100,000 ล้านบาท และ ในอีก 7 ปี มีการวิเคราะห์กันว่ามูลค่าจะอยู่ที่ 400,000 ล้านบาท !!!
ธุรกิจอสังหา คาดว่ายังเป็นธุรกิจหลักปีนี้ ปีหน้าอยู่ ปัจจุบัน OCEAN มี Backlog ในมือ ประมาณ 800 ล้าน แบ่งเป็น 1) โครงการ IKON สุขุมวิท 77 กำลังโอนรับรู้รายได้อยู่ในปัจจุบัน รอโอน 64 ล้านบาท และ รอขาย 306 ล้านบาท ผบหคาดว่าสิ้นปีน่าจะรับรู้ได้ ทั้งโครงการ ที่ 78% หรือ 901 ล้านบาท ( งบ Q2 2021 มีรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ 223.6 ล้านบาท ) 2) โครงการ The Valor มูลค่า 486 ล้าน ตอนนี้ถมที่ดินแล้ว คาดว่าจะเริ่มให้ลูกค้าเข้าชมตัวอย่างบ้านได้ เดือน ธันวาคม 2021 และ เริ่ม โอนได้ต้นปี 2022 ( โครงการใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู) 3) โครงการ IKON อุดมสุข มูลค่า 600 ล้าน เริ่มโอน Q4 2022 ตอนนี้ขอ EIA อยู่ ( มียอดจองแล้ว 85%)
หุ้น TPCH น่าสนใจแบบไม่มีอะไรมากั้น !!!
หากใครยังจำกันได้ ทางเราเคยเขียนถึงหุ้นตัวนี้ มาหลายเดือนมาก แต่ราคาหุ้นยังไม่ได้ขึ้น แถมตกลงมาด้วย สาเหตุที่ราคาหุ้นตกไม่ได้เกิดจาก บริษัท เจอ COVID จนต้องหยุดการดำเนิน แต่เป็นสาเหตุการการดำเนินการ COD รฟฟ ให้กำลังผลิต Full ไม่เป็นไปตามแผนงานเท่านั้น
จากรูป Q1 2021 รฟฟ PTG สามารถ Run ได้ 61% เท่านั้น ซึ่งเป็น รฟฟ มีกำลังผลิตค่อนข้างเยอะกว่าโรงอื่นของ บริษัท ( PTG มี กำลัง 23 MW ) สาเหตุ ที่ไม่สามารถ Run ได้เต็ม cap เพราะ วิศวกร จากต่างประเทศไม่สามารถมาทำงานได้เพราะ ติดปัญหาเรื่อง COVID บริษัท จึงไว้ใช้วิศวกรชาวไทย แต่ด้วยความที่ไม่เชี่ยวชาญจึงทำให้สายพานทำงานไม่ดี เลยต้องแก้งานใหม่ทั้งหมด หยุดการผลิตไป 2 เดือน และ หลังจากนั้น เดือน 6-7 มีพนังงานติด COVID เลยมีการหยุดผลิตไปช่วงนึง
หลังจากเดือน 9 เป็นไป โรง PTG จะสามารถ Run ได้ 90% เหมือนโรงอื่น
ส่วนด้านต้นทุนไม้ เริ่มกลับมาดีแล้ว เพราะ สถาณการณ์โรงไม้ต่างๆ เริ่มมี order ผลิตเฟอร์นิเจอร์ จากปัญหา COVID ลดลง มีงานมากขึ้น ทำให้วัตถุดิบขายไม้ที่ไม่ได้ใช่งานมีเยอะขึ้น อนาคตเลยส่งผลดีต่อ TPCH
หุ้น OCEAN น่าสนใจแบบๆไม่มีอะไรมากั้น !!!
เกิดอะไรขึ้น มีอะไรเปลี่ยนแปลงที่นัยสำคัญหรือไหมมาดูกันครับ
🔥ขอย้อนกลับไปในอดีตกันสักหน่อย OCEAN ประกาศเลิกทำธุรกิจเดิมที่เคยทำ นั้นคือผลิตภัณฑ์กอกน้ำ เมื่อปลายปี 2562 ทำให้ราคาหุ้น ตกจาก 5.9 บาทต่อหุ้น ลงเหลือ ต่ำกว่า 1 บาท
🔥หลังจากนั้น มีข่าว การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2562 และวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563
โดยนาย ธีร ชุติวราภรณ์ ได้ใาซึ่งหุ้นรวมทั้งสิ้น 198,600,000 หุ้นหรือคิดเป็นร้อยละ 16.46 ของ
สิทธิออกเสียงท้งัหมดของกิจการ
หลังจากนั้นผ่านไป 1 ปี ปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้นมาพอควรเลย
💥แล้ว OCEAN มีอะไรน่าสนใจ
- เข้าลงทุนธุรกิจใหม่ คือ บิษัทให้คำปรึกษาและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทฯ ได้เข้าลงทุนในโครงการบริษัท วี สุขุมวิท 81 จำกัด (“วี 81”) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์(โครงการ ไอคอน สุขุมวิท 77 (IKON Sukhumvit 77) (“โครงการ IKON”) โดยการเข้าซื้อหุ้นจำนวนทั้งสิ้น 132,000 หุ้น (หรือเท่ากับ ร้อยละ 55 ของหุ้นทั้งหมด) เมื่อเดือนสิงหาคม 2562
ปัจจุบัน โครงการ IKON อยู่ คอนโดมิเนียม 2 โปรเจคอย่าง “IKON SUKHUMVIT 77” และ “IKON UDOMSUK” ผบหให้ข่าวว่า มียอดขายทะลักสวนกระแสโควิด
2. รายได้จากโครงการอสังหาริมทรัพย์ เริ่มทำเงิน ทำให้งบการเงินช่วงปี 2563 สามารถพลิกเป็นกำไรได้ สำเร็จ ปี 2563 กำไร 58 ล้านบาท ปี 2562 ขาดทุน 0.03 ล้านบาท
3.บริษัท เข้าทำการศึกษา และ ทำ MOU กับ บริษัท โรงงาน เภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาสินค้าใหม่ อาทิ เช่น สารสกัดกันชง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการผลิตอาหาร อาหารเสริม และยา ตลอดจนผลิตภัณฑ์อื่นๆ โดยเบื้นต้น บริษัทจะลงทุนซื้อเครื่องจักมา ให้ JSP ผลิต ให้ โดย OCEAN จะเป็นผู้ทำตลาด ( ผ่านบริษัท ลูกชื่อ บริษัท เค ที ดี เอ็ม จำกัด
4.อนาตการเติบโตของหุ้น OCEAN
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ -โครงการ IKON SUKHUMVIT 77 มี Project value ประมาณ 1,235 MB เหลือมูลค่าโอน ในปี 2564-2565 370 ล้านโดยประมาณ -โครงการ IKON UDOMSUK มี Project value ประมาณ 585 MB -โครงการ V Village รามอินทรา62 (บ้านเดี่ยว) บนถนนรามอินทรา 62 โครงการบ้าน
จัดสรร มี Project value ประมาณ 490 MB เริ่มก่อสร้าง Q3 2564 รับรู้รายได้
สารสกัดธุรกิจกัญชง กัญชา คาดว่าจะสร้างรายได้ 100 ล้านบาท ตามข่าว ในปี 2565
บทความนี้เป็นเพียงกรณีศึกษาเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาเชียร์ซื้อขายหุ้นแต่อย่างใด นักลงทุนควรตัดสินใจการลงทุน ศึกษาข้อมูลด้วยต้นเอง หากเกิดความผิดพลาดความเสียหายทางเราจะไม่รับผิดชอบทุกรณี
หุ้น GLOCON น่าสนใจแบบๆไม่มีอะไรมากั้น !!!
GLOCON ฟื้นด้วยนวัตกรรมและโอกาสการเติบโต เกิดอะไรขึ้น มีอะไรเปลี่ยนแปลงที่นัยสำคัญหรือไหมมาดูกันครับ
ล่าสุดทางผู้บริหารบบอกมาให้ข่าวถึงเรื่องแผนการ Turnaround ให้ได้ในปี 2021 เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากๆ เพราะแต่เดิม หุ้นตัวนี้ทำธุรกิจ แพคเกจจิ้ง เดิมชื่อ NIPPON PACK
ตัวถ่วงของ GLOCON
ธุรกิจอาหาร เดิมที่ มี A&W แต่ก็ยังไม่สามารถทำรายได้ ได้มากพอ ปีที่แล้วขาดทุน 50 ล้าน ร่วมถึงบริษัทพยายามลุยตลาด food หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็น การซื้อแฟรนไชน์ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ดีน แอนด์ เดลูก้า , คิทเช่น พลัส , มิสเตอร์โจนส์ , ร้านอาหาร Miyabi
ธุรกิจดาวเด่นของ GLOCON
สิ่งที่เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างได้ชัดเจนคือ การเติบโตของธุรกิจ food ของบริษัทน่าสนใจ เพราะ สามารถทำให้บริษัท เริ่มขาดทุนน้อยลง จากปี 2561 ขาดทุน 280 ล้าน ปี 2562 ขาดทุนลดลง เหลือ 59 ล้าน ปี 2563 ขาดทุน 58 ล้าน และ ปี 2564 6M พลิกเป็นกำไร 1.2 ล้านบาท
ในช่วงQ2 2021 ที่ผ่าน ธุรกิจ อาหารแช่แข็ง เติบโตรวม 35%
ล่าสุดผู้บริหาร ตั้งเป้ารายได้ปี 2021 ไว้ ยอดขายรวม 2,100- 1,900 ล้าน
1.อาหารอบแห้งยอดขาย 700-600 ล้าน
2.เรดี้ทูอีทยอดขาย 700-600 ล้าน
3.แพคเกจจิ้งยอดขาย 700-600 ล้าน
4.แพลนต์เบสยอดขาย 100 ล้าน
ซึ่งเป้าหมายนี้ขึ้นอยู่กับสถานะการณ์ Covid 19 ด้วยว่าจะฟืื้นได้เร็วมาน้อยแค่ไหน หลังจากมีการฉีดวัคซีนแล้ว
และยังพูดได้น่าสนใจว่า ทางบริษัทจะขยายงานด้านต่างๆ โดนจะเน้นไปยังการทำ สินค้าภายใต้แบรนด์ คิทเช่น พลัส ซึ่งเป็นของตัวเอง จะทำให้ GP เพิ่มขึ้น กว่าเดิม 8% ตั้งเป้าไว้ว่า ปี 2021 GP จะราวๆ 20-25% โดยบริษัท มีแผนจะลุยส่งออกอหารไปยังตลาดต่างประเทศ เพิ่ม และตลาดใหม่ในประเทศที่ยังไม่เคยไป แถมยังเกาะ กระแสโครงการ อาหารเนื้อสัตว์ผลิตจากพืชและ กัญชง ผบห มองการเติบโตใน 2 ตลาดนี้ค่อนข้างมาก โดยล่าสุด บริษัท ได้ทำการลงทุนซื้อโรงงานใหม่ ลงทุนราว 200-300 ล้าน เพิ่มกำลังผลิตได้ 3 เท่าตัว และจะทำการย้ายโรงงานใน Q4 2021
หุ้น ILINK น่าสนใจแบบๆไม่มีอะไรมากั้น !!!
เกิดอะไรขึ้น มีอะไรเปลี่ยนแปลงที่นัยสำคัญหรือไหมมาดูกันครับ
หลังงบการเงินในช่วงปี 2562 – 2563 รายได้รวมของบริษัทลดลง 8 %
จากข้อมูล Growth Rank Ilink ได้คะแนน 46.77 (จาก 100 คะแนน ) จะเห็นได้ว่าเทียบกับเพื่อนๆ ในตลาดแล้ว การเติบโตของกำไร ของเขาจัดอยู่ในระดับกลางๆ ไม่โดดเด่นอะไร
ขอย้อนกลับไปช่วงก่อนหน้าสักหน่อย ธุรกิจ Engineering เมื่อช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตัวกำไรของธุรกิจนี้ตกลงเยอะมาก โดย ปี 2563 มี %GP อยู่ที่ -20.40% เนื่องจากการรับงานโครงการขนาดใหญ่ งานนึง แต่ปัจจุบันงบ Q1-Q2 2564 %GP พลิกกลับมาเป็นบวกได้แล้ว 7%
แล้ว Ilink มีอะไรน่าสนใจ
1) กำไร Q1 และ 2Q64 ทำได้ถึง 156 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับ 80% ของกำไนทั้งปี เมื่อปี 63 หลักๆมาจาก ธุรกิจ cabling มีการปรับขึ้นราคาสินค้า เพราะทองแดงที่เป็นส่วนประกอบสำคัญถึง 90 % ราคามันขึ้น และยังได้ประโยชน์จากความต้องที่มี Demand จากการ Work form home มากขึ้นนั้นเอง
2) บริษัทตั้งเป้ารายได้จากงานโครงการ ในปีนี้ ปัจุบันIlink มี backlog ทั้งหมด 3,179 ล้านบาท และจะรับรู้ในครึ้งปีหลังนี้ 904 ล้านบาท backlog ทั้งหมด 3,179 ล้านบาท จะมีการประมูลงานเพิ่ม โดย ธุรกิจโทรคมนาคม มีproject รอประมูล 2,103 ล้านบาท
ธุรกิจวิศวกรรม งานหลักจะเป็นงาน AOT (Suvarnabhumi Airport Extension Phase 2 & Automatic people movers) ตอนนี้ test run แล้วคาดว่าจะรับรู้รายได้ ครึ่งปีหลังนี้ ธุรกิจนี้ได้งานประมูลใหม่มาอีก 595 ล้านบาท คือ Submarine Cable Panyi Island , Submarine Cable Chao Phraya River , Submarine Cable -3 Provinces ( Consortium)
3) บริษัท ตั้งเป้าการเติบโตปีนี้ รายได้อยู่ที่ 6000 ล้านบาท และ ตั้งเป้า %NI ให้อยู้ในระดับ 7% !! ปีก่อน บริษัทมี NI อยู่ที่ 3.64% (ตรงนี้เพื่อนๆสามารถทำการบ้านต่อไป ถึงเรื่อง valuation ครับ ข้อมูลเพิ่มเติม ปี 2563 Ilink มีกำไร 195 ล้าน %NI อยู่ที่ 3.64%)
ข้อมูลธุรกิจ
ilink มีรายได้หลักจาก 3 ธุุรกิจ คือ ธุรกิจจัดจำ หน่ายสายสัญญาณ, ธุรกิจโทรคมนาคม และธุรกิจวิศวกรรม โดยมีรายละเอีียด ตามตารางด้านล่าง ดังนี้
ศึกษาเท่านั้นขอบคุณข้อมูลจาก oppday