วันมืดมิดในชีวิตการลงทุน EP.2 ชาย มโนภาส

วันนี้มาฟังบทเรียนจากประสบการณ์การลงทุนกว่า 30 ปีของอ ชาย มโนภาส ว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ได้เขาผ่านอะไรมา ได้เป็นแนวทางการประยุกต์ใช้ลงทุนของเราได้ครับ


อ เล่าว่า ช่วงที่เจ็บหนักสูดคือช่วงวิกฤติซัพพรามในปี 2008 แต่ แม้ว่าก่อนหน้านั้นได้เริ่มเห็นสัญญาณมาก่อน เช่น ยอดขายบ้านที่ลดลง การล้มของธนาคาร เลแมน บราเดอร์สทำให้ขายหุ้นทิ้งตั้งแต่ดัชนี 800 จุด
และเมื่อดัชนีลงมา 600 จุดก็เข้าไปช้อเพราะเห็นว่าลงมาเยอะมากแล้ว และวิกฤติที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เกิดในประเทศ เหมือนรอบต้มยำกุ้ง


แต่ราคาหุ้นก็ยังลงต่อ จุดจุดต่ำสุดที่ 200 จุด เนื่องจากปัญหาสภาพคล่องของประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ต้องขายสินทรัพย์ทั่วโลก เพื่อดึงสภาพคคล่องกลับ และฝรั่งขายแทบจะทุกราคา เริ่มจากขายหุ้นใหญ่ พอขายหุ้นใหญ่จบก็ไล่มาหุ้นเล็ก


สำหรับการแก้เกมส์ ของ อ ชาย มโนภาส โดยการเลือกหุ้นคุณภาพดีเข้าพอร์ท โดยเลือกบริษัทที่มีความสามารถในการแข็งขัน หนี้น้อยๆ กระแสเงินสดดำเนินงานเป็นบวก และเน้นทำธุรกิจภายในประเทศ เพราะช่วงนั้นบริษัทที่ทำส่งออกเจ้งหมด เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในอเมริกา และยุโรป ที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่ของ ไทยมีปัญหาไปด้วย


ยกตัวอย่างหุ้นธนาาคารเอาเงินฝากไปปล่อยกู้ แต่ทุนมี 10% ของสินทรัพย์เอง แสดงว่าถ้าเกิดหนี้เสีย ซัก 10% ก็เจ้งแล้ว ในขณะที่ธนาคารอเมริกาล้มกันระเนระนาดแต่บริษัที่ขายของจำเป็น หนี้น้อย wallmart dollar tree ก็ยังไม่ปิด ขายของได้อยู่ อ ชาย มโนภาส ได้เสริมเรื่องการวิเคราะห์มหภาคว่าต้องดูอะไรบ้าง เพราะบางทีหุ้นที่ขึ้นก็อาจไม่ได้ดีเสมอไป อาจขึ้นจากสภาพคล่อง ปริมาณเงิน ตึงตัวหรอืเปล่า inter bankrate การกู้ยืมระหว่างธนาคาร repo rate M1 m2 ยอดซื้อขายบ้าน รถ สภาพคล่องดีก็ดันหุ้นขึ้นไปได้
หลังจากวิกฤติซัพพรามทำให้สภาพคล่องในระบบหดหาย ก็มีเรื่องโชคดีคือการออกนโยบาย QE ของเฟตอัดเงินเข้าระบบ ทำให้แก้ปัญหาสภาพคล่องของธนาคาร และเครื่องยนต์เศรษฐกิจกลับมาทำงานได้ แต่เงินส่วนหนึ่งที่ไม่ได้เข้ามาที่ real sector ก็เข้ามากองทันที่ตลาดหุ้น ทำให้ตลาดหุ้นวิ่งแบบไม่ลืมหูลืมตา
บาดแผลการลงทุน


ตัวที่ทำให้เจ็บตัวหนึงคือหุ้นที่ทำธุรกิจสายการบินแห่งหนึ่ง เข้าตลาดหุ้นมาด้วยเรืองราวสวยหรู จากภาพใหญ่การเติบโตของภาคการท่องเที่ยว และการเดินทางภายในประเทศทำให้ความต้องการเดินทางทางอากาศเพิ่มขึ้น แต่หลังจาก IPO มาราคาหุ้นก็ร่วงอย่างเดียว จากสภาพการแข่งขันที่มากขึ้นจากคุ่แข่งรายใหม่ทำให้ บริษัทต้องลงทุนเยอะขึ้น และมาเจอเรื่อราคาน้ำมันที่พุ่งสูงทำให้พาเจ้งไปอีก
อีกกรณีศึกษาที่กำไรไม่มาตามนัดคือหุ้น OISHI หลังจากเข้าซื้อกิจการจากกลุ่มไทยเบฟ และทำตลาดร่วมกับบริษัทเสริมสุขที่ทำน้ำอัดลมแบรนด์ เอส ที่มีเครื่อข่ายการจัดส่งในร้านค้าทั่วประเทศ ก็จะเชื่อว่าจะมีการ synergy กัน โดยสินค้าตัวแรกคือนำชาเขียว Oishi ขวดแก้วเข้าไปจำหน่ายในร้านอาหาร แต่สุ้ดท้ายกำไรก็ไม่ได้มาตามนัด


พิธีการถามถึงจุดขาย อ ชาย บอกว่าพิจารณาจากหลายๆองค์ประกอบประกอบกันทั้งราคาและพื้นฐาน ถ้าไม่ไหวจริงก็ต้องดูว่าเราพร้อมจะเสียแค่ไหน ถ้าได้กำไรจากตัวอื่นพอควร ก็รักษาเงินต้นไว้กอ่นได้
เรื่องยากของนักลงทุนอีกเรื่องคือการยึดติดกับโอกาส เพราะช่วงแรงๆที่ลงทุนความรู้ยังไม่เยอะกว่าจะเจอหุ้นแต่ละตัวก็ยาก เราต้องขยายขอบข่ายความรู้ของการลงทุนให้กว้างขึ้น จะเจอหุ้นได้มากขึ้น และเอาทรัพยากรมาใส่หุ้นที่แน่ๆ ลงทุนในสิ่งที่เราเห็นภาพชั้นดีกว่า และพยายาม bet ให้น้อยที่สุด


ในเรื่องของการประเมินมูลค่าบางทีหุ้น PE ต่ำๆก็ไม่ได้ดีเสมอไป ต้องมีความรู้ทางธุรกิจประกอบด้วย ว่ารอบธุรกิจยังขาขึ้นไหม กำไรโตได้หรือไม่ไหม สินค้าตอบโจทย์ไหม ยกตัวอย่างเช่นหุ้นอสังหาถ้า PE ต่ำเพราะกำไรเพิ่มจากการโอนโครงการใหญ่ๆไปแล้วอนาคตไม่มีโครงการใหญ่ๆทำต่อ กำไรอนาคตก็อาจลดลง PE ที่เห็นต่ำๆ ก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้น และจากหุ้นถูกก็จะกลายเป็นหุ้นแพงไปได้


หลังจากฟัง อ ชาย จะเห็นว่าแรกๆขยันหาความรู้ไว้ก่อน เดี๋ยวพอความรู้เริ่มเยอะ เราจะเห็นโอกาสมากขึ้น และลงทุนได้คมมากขึ้น ลงทุนได้คมยิ่งๆขึ้นไปทุกท่านครับ


ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=MjStBdYQ7zg

รัสเซียบุกยูเครน จับตาจีน ไต้หวัดปะทุต่อหรือไม่

ปูตินได้สั่งทหารของรัสเซียเข้าไปยูเครน เข้าไปภูมิภาคที่เรียกว่าดันบาส ซึ่งมีมือสำคัญอยู่สองเมืองโดยอ้างว่า ต้องส่งทหารเข้าไปเพื่อไปรักษาภูมิภาคนั้นเนื่องจากถูกยูเครนรังแก และเมื่อ 8 ปีที่แล้วรัสเซียก็ได้เขายึดไครเมียจบใน1 เดือน

อาจารย์มองว่าสิ่งที่รัสเซียได้เปรียบที่สุดก็คือการส่งแก๊สและน้ำมันเข้าไปยังยุโรป ทำให้ยุโรปไม่กล้าที่จะต่อกรกับรัสเซีย ซึ่งรัสเซียก็เคยยึดประเทศต่างๆมาแล้วก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นใครเมียหรือจอร์เจีย อ.มอฃง่าปูตินต้องการทำให้รัสเซีกลับไปยิ่งใหญ่เหมือนตอนสหภาพโซเวียต ประเทศอยู่ข้างๆยูเครนก็กังวลแน่นอน เพราะประเทศที่เป็นสมาชิกนาโต้ไม่ส่งทหารเข้าไปช่วยเลย

อาจารย์มองว่าตอนนี้ยุโรปอ่อนแอมาก ตอนนี้ก็รัสเซียได้เข้ายึดครองส่วนหนึ่งของประเทศยูเครนไปแล้วแต่ยังไม่ได้ทั้งประเทศ ส่วนจะรุนแรงได้ไหมอยู่ที่ว่ายูเครนจะต่อสู้แค่ไหน ซึ่งจริงๆแล้วอยู่ที่ว่าสงครามจะยืดเยื้อแค่ไหนและต้องดูว่าคนยูเครนจริงๆเนี่ยต่อต้านรัสเซียหรือไม่ เพราะหากมีการต่อต้านอย่างมากจากประชาชน ประเทศอื่นก็สามารถเข้าไปสนับสนุนได้อย่างเต็มที่

ส่วน ผลกระทบที่แย่ในเศรษฐกิจ ก็คือพลังงานตอนนี้นี่ขาดแคลนอยู่แล้ว ทำให้น้ำมันยิ่งขาดแคลนขึ้นไปอีก อ.มองว่าถ้าหากนาโต้ไม่สามารถช่วยยูเครนได้ จีนก็น่าจะไปยึดไต้หวันได้อย่างไม่ยากเย็น ปูตินเข้ายึดช่วงนี้เพราะว่าน้ำมันแพงบวกกับทางยุโรปนั้นเป็นหน้าหนาวจะต้องพึ่งพารัสเซียส่วนตอนนี้ตอนนี้ Shale gas มาช้าเนื่องจากถูกมองว่าทำลายธรรมชาติ โจไบเด้นไม่สนับสนุนไบเด้น อยากสู้กับรัสเซียยูเครนมากกว่าสู้กับจีนที่ไต้หวัน มอกว่าตรงไต้หวันนั้นไม่มีอะไรเลยที่อเมริกาได้เปรียบเหมือนแถบที่มีนาโต้

ตลาดหุ้นไทยไม่ค่อยกลัวเรื่องนี้ เเต่เรากระทบน้ำมันค่อนข้างเยอะมากกว่าเพราะว่าส่วนต่างจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้นทุนเราขึ้นสูงมากจนแทบจะไปพอดีกับจำนวนท่องเที่ยวที่เราคาดหวังที่จะเข้ามาเที่ยว GDP จะโตได้ยากขึ้น อาจจะหายไปถึงครึ่งหนึ่งหรือไม่โตเลยก็ได้อาจารย์บอกว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นแต่ไม่มีพลังงานใช้ทั้งโลก แล้วถ้าหากรัฐบาลไทยจะต้องกู้มาอุดหนุนราคาพลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดการขาดดุลการค้าขึ้นเงินบาทอ่อนค่าลงไปอีก

จีนเองก็ไม่ได้เข้าข้างรัสเซียในเรื่องของยูเครน เพราะไม่อยากถูกมองว่าเป็นอันธพาล แต่อาจารย์มองว่าจีนจะได้ประโยชน์มากที่สุดเพราะถ้าหมดนี่ไงว่าถ้ามีกาช่วยยูเครนไม่ได้ไต้หวันก็ไม่น่าช่วยได้เช่นกัน

ส่วนความกังวลว่าจะมีสภาพเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือไม่ อาจารย์ก็มองให้เทียบตอนสงครามโลกที่ 2 คือตอนนั้นฮิตเลอร์ไล่ยึดทุกคนก็ถอยจนถอยไม่ได้แล้วจึงเกิดสงคราม ต้องดูว่าสุดท้ายปูตินจะไล่จนถึงจุดที่ทนไม่ไหวหรือเปล่า เรายังคงต้องรอดูเหมือนกัน

อเมริกาเองมีปัจจัยเสี่ยงในด้านในเรื่องของเงินเฟ้อ ตอนนี้อเมริกามีปัญหาเรื่อง 1.แรงงานที่ขาดแคลนด้วย อันที่ 2 พลังงานราคาขึ้นอีก อันที่ 3 คือต้นทุนทางการเงินคือดอกเบี้ยขึ้นอีกที่เมกาทางออกที่เป็นไปได้มากที่สุดคือมีเทคโนโลยีที่ทดแทน 3 อย่างนี้ได้ซึ่งตอนนี้ก็ยังมองไม่เห็นเพราะ 3 อย่างนี้เป็นต้นทุนการผลิตทั้งสิ้น

เมกาแทบจะไม่สามารถที่จะทำ qe ต่อไปได้อีกแล้วเพราะว่าถ้ายิ่งทำคนจะยิ่งมองว่าถ้าไม่ใช้เงินตอนนี้สินค้าจะแพงขึ้นอีกและยิ่งมีตัวเลขเงินเฟ้อเข้าไปอีก

ปัจจัยพื้นฐานถึงแม้จะไม่รวมยูเครนยังไงดอกเบี้ยก็ต้องขึ้นอยู่แล้ว ส่วนความน่ากลัวคือตอนนี้หุ้นแพงนักลงทุนต้องรับรู้ได้แล้ว โดยเฉพาะหุ้น PE สูงถ้าเจอดอกเบี้ยขาขึ้น PEจะอยู่สูงไม่ได้จะต้องลงมาต่ำ มองว่าอีก 1-2 ปีข้างหน้าpe จะลงมา ถ้ากำไรไม่ดีจริงหุ้นตัวนั้นลงแน่นอน

อาจารย์มองว่าฟองสบู่ที่ใหญ่ที่สุดคือคริปโตและก็ได้แตกไปแล้ว และถ้าคนที่ถือคลิปโตยังมีความมั่นใจอยู่ก็อาจจะยังลงได้ไม่จบ แต่ถ้ามีความกลัวมากแล้วไม่อยากคุยอีกแล้วราคานั้นน่าจะเป็นจุดต่ำสุดได้

อาจารย์มองต่างจากนักวิเคราะห์นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าต้นปีจะไม่ดีและปลายปีจะดี แต่อาจารย์บอกว่าต้นปีและปลายปีจะหนักเพราะว่ามีการขึ้นดอกเบี้ยหลายรอบ ความโชคร้ายของไทยคือตอนที่เราจะฟื้นตัวแต่ต้องเจอปัญหาดอกเบี้ยและเงินเฟ้อเข้ามาโจมตี มองว่าปีที่ผ่านมาเราฉีดวัคซีนได้ไม่ดีพอทำให้ฟื้นตามโลกไม่ทัน ส่งออกพอไปได้บ้าง แต่่รัสเซียยึดยูเครนก็ไม่ง่ายนะถ้าหากเจอแบบกลุ่มกบฏสมัยอัฟกานิสถาน ประเทศยูเครนก็ไม่ได้เล็กอเมริกาก็สามารถสนับสนุนอาวุธได้ด้วย

สรุปก็คืออันที่ 1 มองว่านักลงทุนต้องดูว่ายูเครนเขาจะสู้แค่ไหนประชาชนรู้สึกอย่างไรกับรัสเซียอันที่ 2 ต้องดูว่าการคว้ำบาตรของอเมริกาและยุโรปนั้นรุนแรงและเข้มข้นแค่ไหน ความสำคัญสำหรับโจไบเดนในเรื่องของยูเครนคือยูเครนมีความสำคัญกับยุโรปและต้องไม่เป็นเยี่ยงอย่างให้จีนเห็น เพราะไม่งั้นในกรณีนี้จีนจะหยุดไต้หวันอย่างแน่นอน จากข้อมูลจีนพร้อมยึดใต้หวันใน 6 ปีข้างหน้านั้นเอง

====================

สนใจเครื่องมือ วิเคราะห์กองทุน ดูรายละเอียดได้ที่ www.goinvest.in.th

Alphax สรุปประเด็นการลงทุน

Alphax สรุปประเด็นการลงทุน

1.ธุรกิจอสังหา ปีนี้ผบห คาดสร้างรายได้ (ปี 2022 ลุ้นยอดโอน 600 ล้าน ใกล้เคียงปี 2021 เน้นประคองตัว

2.ธุรกิจ กัญชงกลงน้ำ อุตสาหกรรมนี้โตเฉลี่ยปีละ 27% ไปจนถึง 2025

เฟสที่ 1 ลงทุนเครื่องจักรไป พร้อมผลิตทันที่เมื่อได้ใบอนุญาต คาดว่าจะได้ เดือน มีค 2022 เครื่องนี้กำลังผลิต 10ลิตรต่อวัน หรือ 300 kg /เดือน ผบห คาดว่าจะสร้างรายได้ 70 ล้านบาทต่อปี

เฟส 2 สั่งเครื่องจักรไปแล้ว คาดมาช่วง Q3 2022 กำลังผลิต 1000 ลิตรต่อวัน ( อ้างอิงตัวเลขเดิม รายได้จะสร้างได้ 7,000 ล้านบาท หมายเหตุ ขึ้นอยู่กับราคาวัตถุดิบและ ราคาขาย ใครทำก่อนได้เปรียบเพราะ supply ยังน้อย ) ผบห ประเมินต่ำ ตรงนี้คาดสร้างรายได้ 2000-3000 ล้านต่อปี

3.ธุรกิจFinnance เข้าซื้อกิจการ มหาทุนลิสซิ่ง ( เบอร์ 1 ในเวียงจันทร์ ) คาดว่าจะรับรู้รายนได้เข้าบริษัท alphax ได้เดือน เม.ย. 2022 อ้างอิงจากอดีต รายได้ ปีละ 20,000 – 25,000 ล้านกีบ หรือ 56 ล้านบาท กำไรปีละ 7000 ล้านกีบ หรือ 21 ล้านบาท ผบห มองว่าตลาดประเทศลาวยังโตได้อีกมาก เพราะ 1.มหาทุนทำการตลาดแค่ 1 เมืองเท่านั้น 2.มหาทุนทำแค่ product รถมอเตอร์ไซค์เท่านั้น ยังไม่ได้ทำ เครื่องใช้ไฟฟ้า อื่นๆ หรือ อุปกรณ์การเกษตร ข้อดี บริษัทนี้ net margin สูง ที่ 33% และสามารถขยายได้อีก ถ้าปรับลด cost of fund การที่เข้ามาอยู่กับ Alphax แล้วเราสามารถหา cost of fund ที่ต่ำลงได้

เล่าประสบการผ่าร้อนผ่านหนาว โดย เซียนมี่ ทิวา ชินธาดาพงศ์

[ เซียนมี่ ทิวา ชินธาดาพงศ์ ] ได้เล่าประสบการผ่าร้อนผ่านหนาว กว่าจะมาเป็นนักลงทุนที่ประสอบความสำเร็จให้เราฟังครับ

เริ่มต้นลงทุนด้วยเงิน 5 ล้านช่วงนั้นโดนรับน้องตลาดลงแรงเพราะ ซับไพร์ม ครั้งสุดท้ายดูพอร์ตมันมันลงไปมากกว่าครึ่งล้าน 2 ล้านกว่าๆประมาณนี้นะครับ ภรรยาก็รู้ทุกคนมันก็เริ่มออกข่าวใหญ่ ทุกคนพูดกันจะเลิกไหมทำไมถึงไม่เลิกมันก็พิสูจน์แล้วนี่ว่าเราทำไม่ได้เห็นไหมล่ะก็ให้ลองแล้วไม่ใช่ว่าไม่ให้ลอง

” แฟนถามแล้วลูกจะเรียนต่อยังไงเคยคิดถึงอนาคตลูกไหม” ถ้าเราเล่นอย่างนี้แล้วมันลงไปเรื่อยๆจนเหลือศูนย์อ่ะจะทำยังไง

ความเชื่อมั่นในตอนแรกที่เล่น มันขึ้นไปเกินกว่าความรู้เยอะมามันงงแล้วมันสับสนแล้วก็คิดว่าจะล้างพอร์ตแล้วเลิกเลยจะเหลือเงิน 6 ล้าน 7 ล้านก็ช่างมันเถอะก็ถือว่าพลาด

โชดดีตอนั้นมีถ่ายทอด Opp day สามารถอัพเดข้อมูลบริษัทได้ที่ตลาดหลักทรัพย์ผมก็ไปเลยครับ

## เจอพี่หลายท่านเก่งๆน พี่ธีรนาถโชควัฒนา เจอพี่เกียรติ กาละมัง แล้วก็คุยกันคุยแลกเปลี่ยนมุมมอง ผมก็ถามพี่ว่าอย่างนี้น่ากลัวไหม? พี่ พีตอบว่า อย่างนี้เรียกว่าวิกฤตเศรษฐกิจอันนี้คือโอกาสด้วยนะโอกาส พี่เขากลัวตัวสั่นเลยนะผมอยากซื้อจนตัวสั่นเลย แต่ผมหมดแล้วเงินหมดซื้อหมดแล้วผมมี margin ครบแล้ว

พอเราได้ฟังเล่าเกิดความรู้ขึ้น พาแฟนไปนั่งฟังบ้าง แฟนตัดสินใจลองดูให้เงินมาอีก 5 ล้านซื้อเพิ่ม

จากนั้นเราก็ถามจากคนเก่งมาตลอด เช่น คุณ Yoyo ก็เป็นท่านนึงที่สอนผม ผมเคยอ่านเคยอ่านเจอหนังสือเล่มหนึ่งเขาบอกว่าคนที่เก่งเกรดa มักจะคบกันคุยกัน หรือคบคนเกด a+ แต่คนเกรดบี มันจะคบกับคนเกรดซี และคนเกรดดี มันคบลดระดับลงไปเรื่อยๆเพราะอะไรเพราะสองคนกลุ่มนี้มันมีความคิดไม่เหมือนกันคนเกรด a เนี่ยเขาคิดว่าเขาจะเจริญเติบโตก้าวหน้าทางความคิดเนี่ยเขาจะเลือกคบคนที่เก่งกว่าเขา

หลังจากปีนังไปในปีถัดมาผมบวก 300% !! คือเกินกว่าที่เสียไปทั้งหมดแล้ว แฟนบอกว่าเลิกเถอะ หรือเอาเงินต้นออกก็ยังดี ความคิดของเราคือเอาไงดี ไปต่อหรือ พอแค่นี้ สรุปคือไปต่อเพราะ คิดว่ารอบนี้ลูกเราจะเปลี่ยนชีวิตลูกเราจะได้เรียนเมืองนอกมันจะได้ไม่โง่เหมือนเราพูดภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง

จากนั้นเจอวิกฤตอีกครั้ง กรุงเทพฯและปริมณฑลประสบภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนและน้ำท่วมครั้งนี้ก็ถูกบันทึกไว้ว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 70 ปีนับตั้งแต่เหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯปี 2485 ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้างและมีการประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจ 1.44 ล้านล้านบาทมีประชาชนได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัยครั้งนี้ถึง 12.8 ล้านคนส่งผลให้ GDP ประเทศไทยในปี 2554 เติบโตขึ้นเพียง 0.1 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ตอนนี้รับมือได้นะครับเพราะว่าเรารู้แล้วว่าเป็นอย่างนี้เดี๋ยวก็กลับมา หุ้นที่ถือไว้ดันถือหุ้นอสังหาลงเยอะมากมีตัวนึงแล้วกะว่าจะเป็นตัวกับพระเอกคือวันเลยตัวนี้ต้องพลิกชีวิต ทำความเดือดร้อนให้เพื่อนๆเยอะเพราะเราเที่ยวไปเชียร์ แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ตอนนั้นขายไม่ได้เพราะซื้อไปเยอะ bid offer ไม่พอถ้่ขายมีหวังลงไปเยอะแน่ๆ ตอนนั้นทุน 30 สตางค์ ราคาลดลงกว่า 30% ก็ได้แต่คิดว่า ถือไปเดี๋ยวก็กลับมา เพราะ เรามั่นใจในธุรกิจ backlog บริษัท ก็ยังดี เราถือ warrant อายุ 5 ปีก็น่าจะไหวอยู่ ตอนนั้นข่าวร้ายก็มาเยอะนะ เขาถึงขนาดบอกว่าปีหน้าเดี๋ยวน้ำก็ท่วมอีก บริษัทที่มีที่ดินเยอะ มีโครงการเยอะ แย่แน่นอน สุดท้านพอไปเช็คกับบริษัท ปรากฎว่าแก้ปัญหาด้วยการถมที่ให้สูงขึ้น และพฤติกรรมลูกค้าก็ยังคงซื้ออยู้เพราะ ญาติพี่น้องอยู่แถวนั้น แค่ปี 1 ปีมันกลับมาทำไร 1 เท่า มันขึ้นมา 60 สตางค์

หลังจากน้ำท่วมผ่านไป Port ผมโตน้องนะ ปีละ 7% บ้าง ลบ 3% บ้าง + 5% อะไรประมาณนี้เพราะผมยังเล่น playbook แบบเดิม(หาหุ้น PE ต่ำ ) แต่ตลาดเล่นหุ้น Growth เราก็งงเลยทีนี้ เราก็ลองไปศึกษาจริงๆ ดู พบว่าจริงๆ แล้วเล่นได้นะ เพราะ ถ้าหุ้นตัวนั้น PE สูงแต่สร้างการเติบโตได้มากกว่าและต่อเนื่องหลายปี PE จะลดลงนั้นเอง เช่น PE 100 ถ้าโตปีละ 50% ติดกัน 5 ปี PE จะเหลือ 10กว่าเท่าครับ คนก็เลยให้มูลค่านั้นเอง และถ้าธุรกิจนั้น มี 2 ปัจจัยนี้จะดีมาก ปัจจัยนั้นคือ 1.สามารถเพิ่มราคาสินค้าหรือบริการได้ 2.ขยายสเกลธุรกิจได้ นักลงทุนจะให้คุณค่ามาก

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะครับ หวังว่าจะได้ประโยชน์นะครับ สุดท้ายพี่มี่ ยังเน้นเรื่องการลงทุนให้มีความสุขด้วยนะ มีเงินมากเท่าไรแต่ถ้าเราเครียด จนป่วยก็นั้นเท่ากับว่าเราผิดทางแล้ว ไม่คุ้ม

ขอคุณคลิปดีๆ จาก ลงทุนแมน นะครับ

SPA หุ้นคุณภาพที่ยังไม่วิ่ง

เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมหุ้นไม่วิ่ง ? อะไรเป็นจุดสำคัญที่นักลงทุนควรมอง

🔥เป็นอีก 1 บริษัท ที่ได้รับผลกระทบการ COVID 19 เต็มๆ ที่ผ่านมาSPA ขาดทุนติดต่อกัน 7 ไตรมาสติด ปี 2562 กำไร 245 ล้านบาท ปี 2563 ขาดทุน 209 ล้านบาท และ 9M 2564 ขาดทุน 240 ล้านบาท หากดูระดับไตรมาส ล่าสุด Q2 และ Q3 SPA ยังขาดทุนยังไม่มีแนวโน้มที่ลดลง

🔥งบQ4 กำลังจะประกาศล่าสุด มีการคาดการณ์ ว่างบจะออกมาดี ข้อมูลจาก CGS คาดรายได้4Q21จะอยู่ที่40 ล้านบาท (-51%YoY, +209%QoQ) สามารถพลิกเป็นกำไรได้ แต่มองว่ายังไม่ฟื้นเต็มที่ ซึ่งได้รับผลกระทบมาจากอุปสงค์ในประเทศที่ยังอ่อนแออยู่ เรามองงว่ายังไม่มีลูกค้าจากชาวต่างชาติด้วย เพราะที่ผ่านมารายได้จากลูกค้าหลักคือ เป็นลูกค้าต่างชาติมากกว่า ครึ่งนึงครับ

🔥 ราคาหุ้นได้สะท้อนผลประกอบการ และเหตุการณ์เลวร้ายไปหมดแล้ว เหลือแต่เพียงรอเวลากลับมาของรายได้นั้น คือการรอการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

SPA ดำเนินธุรกิจหลักอยู่ 4 ประเภทได้แก่ ธุรกิจสปา (91% ของรายได้ทั้งหมด) ธุรกิจโรงแรมและ
ร้านอาหาร (3%) ธุรกิจจ าหน่ายผลิตภัณฑ์สปา (5%) และธุรกิจโรงเรียนนวดแผนไทย (2%)

ดอกเบี้ยพันธบัตร 10 และ 2 ปีแคบลง สัญญาณเศรษฐกิจถดถอยจะมาแล้วหรือ?

ช่วงเดือนนี้มีสัญญาณที่น่าสนใจ คือส่วนต่างดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 กับดอกเบี้ยพันธบัตรระยะ 2 ปี หดแคบลงเรื่อยๆ ในอดีตที่ผ่าน ถ้าส่วนต่างหดแคบลงจน ดอกเบี้ยพันธ์บัตรระยะสั้นสูงกว่าระยะยาวเมื่อไร จากนั้น 1-2 ปีมักจะเกิดวิกฤติเศษรษฐกิจทุกครั้งไป มาดูกันครับว่ารอบนี้เป็นอย่างไรและตลาดจะเป็นแบบไหน

หลังจากภาวะโรคระบาด COVID ในปีได้ทำให้เศรษฐกิจชะงักงันไปหมด คนตกงานมากมาย โรงงานผลิตไม่ได้ ร้านค้าไม่ได้ค้าขาย ทำให้ธนาคารกลางและรัฐบาลสหรัฐต้องเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการอัดเงินผ่านนโยบายการเงิน และนโยบายการคลังอย่างหนักหน่วง ทั้งการทำ QE การให้เงินช่วยเหลือประชาชนผ่านนโยบายต่างๆ.ทำให้เมื่อ covid คลี่คลาย เศรษฐกิจฟื้นตัวแบบเด้งแรง ความต้องการซื้อกลับมาอย่างรวดเร็วดั่งภายุโหม ออเดอร์ทะลักโรงงานเริ่มกลับมาผลิตแทบไม่ทัน ส่งผลให้เกิด supply shock แบบไม่คาดคิด ราคา commodity พลังงาน ค่าระวางเรือพุ่งเป็นพลุ ดัชนีราคาผู้ผลิตพุ่งกระฉูด

ผ่านมาไม่นานก็เริ่มอิ่มตัว PMI เริ่มลดลง การจ้างงานเริ่มกลับมา เศรษฐกิจกลับมาและมาพร้อมกับเงินเฟ้อพุ่งทะยาน ธนาคารกลางเริ่มคิดที่จะขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดเงินเฟื้อ และลดการทำ QE ลง จุดนี้ทำให้กระทบตลาดหุ้นอย่างมาโดยเฉพาะหุ้นเติบโต เริ่มโดนเทแบบไม่เหลือเยี่อไย จากสถิติตั้งแต่ 1950-2020 ธนาคารกลางมักจะขึ้นดอกเบี้ยช่วงเศรษฐกิจอิ่มตัว และตลาดหุ้นจะผันผวนมากขึ้น และราคาหุ้นมักจะลดลงก่อนการขึ้นดอกเบี้ย แต่หลังจากปรับขึ้นดอกเบี้ยราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้น

ในตลาดพันธบัตรเริ่มส่งสัญญาณ โดยขายพันธบัตรระยะสั้นและมาพันธบัตรระยะยาวมากขึ้นทำให้ดอกเบี้ยระยะสั้นขึ้นสูงกว่าระยะยาว (ปกติราคาพันธบัตรจะสวนทางกับดอกเบี้ย ถ้าขายพันธบัตรมาราคาตลาดลดลงดอกเบี้ยตลาดจะสูงขึ้น)

สิ่งที่ต้องระวังคือจากนี้เราต้องคอยตามตัวเลขด้านการผลิต และการบริโภคว่าจะเริ่มอิ่มตัวเมื่อไร และฟองสบู่จุดไหนกำลังมาเราจะได้หนีทัน สำหรับปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณเงินไหลเข้ากลุ่มหุ้น Value มากขึ้นเพราะราคายังขึ้นมาไม่มากน่าจะเป็นหลุบหลบภัยที่ดี โดยเฉพาะหุ้นไทยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเริ่มมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มธนาคาร ค้าปลีก และพลังงานที่ขึ้นมาตามราคาน้ำมันที่เพิ่ม

แต่นักวิเคราะห์หลายสำนักยังมองว่าดอกเบี้ยไทยยังไม่น่าจะขึ้นเร็วๆนี้เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ นักท่องเที่ยวก็ยังไม่มา อาจได้เห็นสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยประมาณปีหน้าแทน

สรุปว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มเข้าจุดอิ่มตัว หุ้นจะมีความผันผวนมากขึ้นไม่ได้เล่นง่ายๆ เมือนปีก่อนต้องเลือกรายตัวมากขึ้น เศรษฐกิจน่าจะยังไม่ตกเร็วนี้แต่ให้เพิ่มความระมัดระวัง

………………………………………………………

📌สนใจเครื่องมือ วิเคราะห์กองทุนแบบมืออาชีพ และ ห้อง line ปรึกษาแก้พอร์ทแบบ VIP สอบถามรายละเอียดได้ที่ add line https://lin.ee/NG76Kil

หรือกดINBOX มาได้เลยครับ

CRC หุ้นคุณภาพที่ยังไม่วิ่ง

เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมหุ้นไม่วิ่ง ? อะไรเป็นจุดสำคัญที่นักลงทุนควรมอง

🔥COVID 19 ทำให้ CRC ขาดทุนแบบไม่เคยเป็นมาก่อน

กำไร CRC ในปี 2563 ลดลงถึง 92.4% และรายได้ ลดลง 12.8% โอ้โฮ ลดลงเยอะมากๆ ผมว่าเดาว่ามันเป็นการดลลงที่เยอะที่สุดเท่าที่บริษัทเป็นมา เท่าที่เราพอจะหาข้อมูลได้ ตั้งแต่บริษัท เข้าตลาดหุ้นก็ช่วง 4 ปีที่ผ่านมาครับ

🔥ตัวเลขทางการเงินป่นปี้ แบบไม่มีอะไรมากั้น

ROE ROA ซึ่งบ่งบอกคุณภาพกิจการ ก็ดูจะแย่ไปเลย ในรอบ 9 เดือน ปีที่ผ่านมา ROE ติดลบ 2.2 เท่า ส่วน ROA เหลือ 0.3 เท่า

ความสามารถทำกำไร เราดูจาก Gross profit margin , EBIT Margin และ Net profit margin ลดลงหมดยกเว้น Gross profit margin แน่นอนต้นทุนสินค้าและบริการที่เอามาขายไม่ได้เพิ่มอะไร แต่ที่เป็นปัญหาคือ ยอดขายที่ลดลงมาก กับ ต้นทุนค้าใช้จ่ายและบริหาร ยังใกล้เคียงเดิม

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ไตรมาส 3Q64 ขากทุน 2,241 ล้านบาท
SSSG (ยอดขายต่อสาขาเดิม) ของบริษัทลดลง ตัว 23%YoY ตัวเลขมันบอกเราว่า ไม่ดีเอาซะเลย

ลงลึกเข้าไปในสาวนของธุรกิจกันครับ 1. รายได้ธุรกิจแฟชั่นลดลง 30%YoY
2.รายได้ธุรกิจฮาร์ดไลน์ทรงตัว YoY 3.รายได้ธุรกิจอาหารลดลง 6%YoY
4. รายได้จากการให้บริการเช่าลดลง 39%YoY

ยอดขายผ่าน Omni Channel ใน 3Q64 คิดเป็น 24% ของยอดขาย
รวม เพิ่มขึ้นจาก 20%

🔥สิ่งสำคัญที่จะเป็นสัญญาณการฟื้นตัว 1.มาตรการคลายล็อกดาวน์ ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ทั้งในไทยและเวียดนาม ส่งผลให้สาขาสามารถเปิด
ให้บริการได้ตามปกติ โดยเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวในไทยและเวียดนาม ขณะที่อิตาลี
เปิดให้บริการตามปกติอยู่แล้วตั้งแต่ 3Q64

อย่างบ้านเรา ประกาศเปิดประเทศแล้ว รัฐบาลยังมีการปรับลด ผ่อนคลายอีกหลายมาตรการ เพื่อให้ประชาชนในประเทศในประเทศสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ รวมทั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล อาทิ การขยายเวลาเปิดห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้น การอนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ การเปิดร้านสะดวกซื้อได้ 24 ชั่วโมง กระทั่งยกเลิกควบคุมพื้นที่เข้มงวดสูงสุดและยกเลิกเคอร์ฟิว

2.เริ่มเห็นแวว การแพร่ระบาด เชื้อ COVID ที่รุนแรงน้อยลง หลายๆประเทศที่ประกาศให้ชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนโควิดครบเข้าประเทศได้ เช่น ออสเตรเลีย โปรตุเกส สเปนยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่กลางแจ้ง ส่วนเวียดนามกลับมาเปิดเรียนอีกครั้งในรอบ 1 ปี

คณะนักวิจัยของรัฐบาลสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ (4 ก.พ.2565) ว่า ผลการวิจัยกับลิงพบว่า การฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์สูตรเดิมของโมเดอร์นาหรือวัคซีนที่พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนโดยเฉพาะ (Omicron-specific booster) นั้น ให้ผลในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนที่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด นั่นหมายความว่า เราไม่จำเป็นต้องออกแบบวัคซีนใหม่เพื่อให้เป็นวัคซีนป้องกันเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน ( Cr แดเนียล ดูเอค นักวิจัยวัคซีนที่สถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐ ซึ่งร่วมเป็นผู้นำในการวิจัย )

3.งบQ4 64 น่าจับตามากๆ เราคาดCRC น่าจะฟื้นตัวได้จากข้อที่ 1 และอ้างอิงจากนัวิเคราะห์ คาดการณ์ว่าผลประกอบการ 4Q64 ฟื้นตัว QoQ ทั้งยอดขายและอัตรากำไร

กำไรสุทธิ 4Q64 ที่ 2,347 ล้านบาท เติบโต 122%YoY และพลิกจากขาดทุนสุทธิ
3Q64 ที่ 2,241 ล้านบาท

SSSG ของบริษัทในช่วง 4Q64 เติบโต 8%YoY เทียบกับ หดตัว 20%YoY ใน 4Q63

กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 27% สูงกว่า 4Q63 และ 3Q64 ที่ 26.4% และ 24% ตามลำดับ

4.CRC วางงบลงทุน 5ปี 1 แสนล้าน ตั้งเป้า market cap โต 2.5 เท่า !!

5.ราคาหุ้นยังไปไหนไม่ไกล

—————————————-

หมายเหตุ ข้อมูลนี้ไม่ได้เป็นการแนะนำหุ้นให้ซื้อขาย แต่เป็นเพียงนำเสนอข้อมูลเพื่อกรณีศึกษาเท่านั้นขอบคุณข้อมูลจาก มติชน , asia wealth

—————————————-

สนใจ เครื่องมือสแกนหุ้น / สอบถามรายละเอียด

add line https://bit.ly/3tgVS0A

หรือดูรายละเอียดได้ที่www.labhoonplus.com

บทสรุปมุมมอง คุณ วิน พรหมแพทย์ ดอกเบี้ยปี 2022 กองทุนหุ้น Growth ใกล้ถึงเวลาลงทุนแล้ว !!!

ประเด็นสำคัญมีดังนี้

1.เงินเฟ้อน่าจะพีดในช่วงQ2 และเริ่มลดระดับลงในช่วงครึ่งปีหลัง

2.คาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ในเดือนมีนาคม เลยที่ 0.5%และจะปรับขึ้น อีก 4 ครั้งในการประชุมครั้งถัดๆ ไป

3.สถิติเปอร์เซ็นต์การลดลงของตลาดหุ้น Nasdaq ในครั้งที่ลดลงเยอะที่สุดในหลายปีที่ผ่านมา เช่น เหตุการณ์ขึ้นอัตราดอกเบี้ยปี 2015-2016 , Trade War , Covid 19 พบว่า ตลาดหุ้น Nasdaq จะลดลง 10-20% ซึ่งเอามาเปรียบเทียบ การลดลงปัจจุบันที่ลงไปและ 15% นั้นหมายความว่าอาจจะใกล้จุด bottom แล้วถ้าอิงจากสถิติ

4.การแนะนำการลงทุน จับตาดูหุ้น Growth กลับลงมาถึงจุดที่น่าลงทุนแล้ว ส่วนกองทุนที่น่าติดตามคือ KFGG และ KFINNO เป็น Watch list ที่น่าสนใจ

https://goinvest.in.th/funds/KFGG-A

https://goinvest.in.th/funds/KFINNO-A

ช่วงสั้นๆนี้แนะนำคนที่ไม่ชอบความเสี่ยง เน้นลงทุนใน Fix income อย่างตราสารหนี้ เลือกกอง KFSMART KF-CSINCOM KF-SINCOME

https://goinvest.in.th/funds/KFSMART

https://goinvest.in.th/funds/KF-CSINCOM

https://goinvest.in.th/funds/KF-SINCOME

เพื่อรับมือความผันผวนที่จะเกิดขึ้นในช่วงประชุมเฟด หรือ แบบผสม Mixed Funds ได้ทั้งการเติบโตในตลลาดหุ้น และ ป้องกันความเสี่ยงตราสารหนี้ เลือก KFCORE KF-CINCOME KF-INCOME

https://goinvest.in.th/funds/KFCORE

https://goinvest.in.th/funds/KF-CINCOME

https://goinvest.in.th/funds/KF-INCOME

ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากแนะนำ กอง Global equity กลุ่ม Quality เลือก KFCBRAND กลุ่ม Tactical เลือก KT-FINANCE KT-ASHARES KFACHINA-A https://goinvest.in.th/funds/KFCBRAND

https://goinvest.in.th/funds/KT-FINANCE

https://goinvest.in.th/funds/KT-ASHARES

https://goinvest.in.th/funds/KFACHINA-A

5.เศรษฐกิจจีน ทองว่าจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ ไตรมาส 2 2022 เป็นต้นไป ตลาดจีนราคาเริ่ม เจอจุด bottom ไม่ลงเหมือนตลาดหุ้นสหรัฐ และ PBOC ใช้นโยบาบผ่อนคลายต่อเนื่องสาวนประเทศชั้นนำแนะนำกองทุนจีน KT-ASHARES KFACHINA-A

https://goinvest.in.th/funds/KT-ASHARES

https://goinvest.in.th/funds/KFACHINA-A

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Morning wealth กรุงศรี

X