.. สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ส.ค. 64)–สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (สงร.) และสถาบันการเงินสมาชิก 4 แห่ง ที่มีสาขาให้บริการในห้างสรรพสินค้า ประกอบด้วย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) พร้อมเปิดให้บริการสาขาของธนาคารในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ ตั้งแต่วันพุธที่ 18 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ตามที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้มีมติให้ปรับมาตรการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด (สีแดงเข้ม) โดยให้เปิดกิจการธนาคาร/สถาบันการเงินในศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้าได้ เพื่อกระจายช่องทางการใช้บริการและอำนวยความสะดวกให้ประชาชน โดยมีมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด 26 ข้อปฏิบัติตามข้อเสนอของสมาคมศูนย์การค้าไทย ปัจจุบัน สถาบันการเงินสมาชิกสมาคมสถาบันการเงินของรัฐทั้ง 4 แห่ง พร้อมให้บริการลูกค้าที่สาขาในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของลูกค้า และพนักงานทุกคนเป็นสำคัญ พร้อมกำหนดวิธีบริหารจัดการในสาขาภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซึ่งธนาคารจะพิจารณาการเปิดหรือปิดสาขา และปฏิบัติตามประกาศของจังหวัดหรือรัฐบาลและเจ้าของพื้นที่ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อสาขาที่เปิดให้บริการได้ทาง website ของแต่ละธนาคาร และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐได้กำหนดแนวทางการเปิดให้บริการ ดังนี้
1.สาขาธนาคารที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า สาขาในศูนย์การค้า และสาขาในคอมมูนิตี้มอลล์ ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด จะเปิดให้บริการตามปกติตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2564 โดยให้บริการไม่เกินเวลา 17.00 น.
2.สาขาในห้างสรรพสินค้า สาขาในศูนย์การค้า หรือสาขาในคอมมูนิตี้มอลล์ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนอกเขตพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมอื่น ๆ ยังเปิดให้บริการไม่เกินเวลา 17.00 น.
3.สาขาทั่วไปที่เป็นสาขา Stand Alone และไม่ใช่สาขาธนาคารในห้างสรรพสินค้า สามารถเปิดให้บริการตามปกติ 5 วัน หรือ 7 วันทำการ ขึ้นกับการพิจารณาของแต่ละธนาคาร แต่จะเปิดให้บริการไม่เกินเวลา 15.30 น.
4.สาขาใน 3 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เปิดให้บริการไม่เกินเวลา 15.00 น. ทั้งนี้ ธนาคารขอแนะนำให้ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านช่องทาง Mobile Banking เพื่อลดการเดินทาง ลดความเสี่ยง และการสัมผัส รวมถึงของดให้บริการแลกเหรียญ และธนบัตรย่อยเป็นการชั่วคราว