นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือน มิ.ย.64 โดยการส่งออกมีมูลค่า 23,699.43 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 43.82% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการการขยายตัวสูงสุดในรอบ 11 ปี จากสินค้าเกษตรที่มีอัตราการขยายตัวสูง
ด้านการนำเข้ามีมูลค่า 22,754.37 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 53.75% ส่งผลให้เกินดุลการค้า 945.06 ล้านดอลลาร์
นายจุรินทร์ กล่าวว่า การส่งออกที่ขยายตัวดีในเดือนมิ.ย.นี้ ได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของภาคการผลิตในทั่วโลก สะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตทั่วโลก ที่อยู่เหนือระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 โดยเฉพาะในประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐ และยุโรป ขณะเดียวกันภาวะเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าก็เป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการส่งออกของไทย นอกจากนี้ การส่งออกที่เติบโตดียังเป็นผลมาจากการดำเนินการตามแผนส่งเสริมการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์อย่างต่อเนื่องด้วย
พร้อมระบุว่า สินค้าส่งออกของไทยที่มีอัตราการขยายตัวสูงมาก 5 อันดับแรกในเดือนมิ.ย. ประกอบด้วย อันดับ 1 สินค้าผลไม้ ขยายตัวถึง 185.10% โดยในส่วนของสินค้าผลไม้ พบว่ามูลค่าการส่งออกทุเรียน ขยายตัวถึง 172% และมังคุด ขยายตัวถึง 488% ส่วนอันดับ 2 สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ขยายตัว 90.48% อันดับ 3 สินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และชิ้นส่วน ขยายตัว 78.5% อันดับ 4 สินค้าเครื่องจักรกล ขยายตัว 73.13% และอันดับ 5 สินค้าเคมีภัณฑ์ ขยายตัว 59.82%
ส่วนการส่งออกไปยังตลาดต่างๆ พบว่ามีการขยายตัวดีทุกตลาด สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ตามการกลับมาเปิดประเทศของประเทศคู่ค้าสำคัญ หลังมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยตลาดหลัก ขยายตัว 41.2% ตลาดรอง ขยายตัว 49.5% และตลาดอื่นๆ ขยายตัว 81.6%