1.จุดเริ่มต้นการลงทุนในปี 2004 เพราะเห็นเพื่อนเล่นแล้วได้กำไร แต่ช่วงนั้นเกิดจากตลาดเป็นขาขึ้น ซื้ออะไรก็ได้เงิน ทำให้เริ่มต้นจากการหาความรู้ โดยการตั้งคำถามใน webboard thaivi.org (ไปค้นชื่อ login hongvalue ได้ คมทั้งคนถามและคนที่ช่วยกันตอบ )
“
2 ช่วง 1-2 ปีแรก ยังไม่สำเร็จ เริ่มไปทำขายตรง ทำอยู่เกือบปี ไม่สำเร็จจึงกลับมาดูหุ้นจริงจัง
“
- เริ่มจับหลักไม่ถูก ยังไม่เข้าใจธุรกิจ ซื้อๆตามหนังสือเช่น บรษัทดี มีหนี้น้อย สินทรัพย์เยอะ แต่เล่นขาดทุน เพราะธุรกิจไม่ดี หรือธรุกิจเป็นหุ้นรับเหมาไปซื้อตอนกำไรเยอะๆ อีกปี กำไรหายเพราะไม่มีงานน
“ - สำเร็จ 2 องค์ประกอบ 1 อดทนนานพอ 2 อยู่บนเครื่องมือที่ถูกต้อง เหมือเราใช้รถยยก ทำไปเรื่อยๆก็สำเร็จ
. - รู้ได้ไงว่าเครื่องมือถูกต้อง นักลงทุนควรเริ่มจากบัฟเฟตกับปีเตอร์ลินซ์ ถ้าเริ่มจากคนที่กำไรเยอะๆปีเดียว อาจเริ่มต้นผิด เอาโมเดลจากคนที่เงินก้อนใหญ่ และบริหารงานในระยะเวลายาวนาน สะท้อนวิสัยทัศน์ถูกต้อง
มีภูมิคุ้มกัน เริ่มถูกแรกอาจไม่เห็นผลแต่ 2-3 ปีเริ่มจับจุดได้
.
6.แนวคิดสำคัญเช่น หาบริษัทที่มี moat (ทำให้รู้ว่าบริษัทมีความสามารถในการแข่งขัน) หุ้น 6 ประเภท (ทำให้แยกประเภทหุ้นได้ หุ้นที่วิ่งแรงๆประกอบด้วย หุ้น turnaround growth comodity เท่าที่ผมตามมาส่วนใหญ่จะกำไรหนักๆจากหุ้นกลุ่มนี้ )
.
7.วิเคราะห์ธุรกิจไม่ได้มองแค่ตัวเลข แต่ต้องรู้ถึงราก เช่นตัวเลขทางการเงิน ยอดขายมากกว่ามูลค่าตลาด ธุรกิจนั้นเอจเป็น margin ต่ำ, รับเหมาที่ความแน่นอนน้อย, รายได้โตเยอะ แต่ซื้อไปแล้วรายได้ลด
. - เริ่มมองตัวธุรกิจมากขึ้น บริษัทมีความสมารถในการแข่งขัน และเติบโตได้มากกว่านี้
อะไรเป็นวิกฤติของการลงทุน
- เจอว่า market wizard บอกว่าการขาดทุนครั้งใหญ่เกิดตามมาจากการกำไรครั้งใหญ่ตอน คุณฮงบอกว่า ซัพพรามกระทบน้อย หนักตอน 2011 ช่วงน้ำท่วม พอร์ทเละ หลังจากที่ปี 2009-2010 พอร์ทโตไวมาก 20 เท่า
.
11.ขาดทุนหุ้นหลักทรัพย์ ตอนนั้น ไตรมาสแรกกำไรโตเยอะ ก็เอามาคูณ 4 บริษัทชอบจ่ายปันผล 75-80 ของกำไร
กลายเป็นว่ากำไรไตรมาส 2 กำไรหายไปเยอะผิดคาด ราคาหุ้นลงเยอะ ปีนั้นโดนติดกันอีก 4-5 ตัว ทั้ง หุ้น coomo ถั่วเหลือง นิคมไปทำโรงไฟฟ้า
“
12.ตอนสร้างพอร์ทไม่ได้สร้างมาด้วยวิธีแบบนั้น จาก 75 ล้านเหลือ 32 ล้าน พอร์ทลงไปครึ่งนึง
“ - ตลาด 2011 แตกต่างกันแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ติดการเล่นกราฟมาจากช่วงตลาดกระทิง
2011 หลุดแนวรับโยนแล้วเป้บเดียวก็เด้ง เข้าใหม่ก็ลงอีก
.
14.ถือ warrant ของอสังหาตัวนึงแล้วอสังหาโดนน้ำท่วม วันที่ซื้อ warrant คิดว่าราคาขึ้น 60 เท่า ผ่านไปอีกปีราคาหุ้นไป 1600% ในปีเดียว
.
15.ได้บทเรียนว่าถ้ามั่นใจในพื้นฐานหุ้น ให้น้ำหนักกับข่าวภายนอกให้น้อยลง ลงทุนหุ้นที่มีความสามารถในการแข็งขันและมูลค่ายังไม่แพงเกินไปก็จะวิ่งขึ้นไปได้ท่ามกลางข่าวพวกนี้
‘
16 2013 ชีวิตการลงทุนสวิงมาก พอร์ทประมาณ 70 ล้าน ใช้เวลาไม่กี่เดือนไป 200 และลงมา 100
พอร์ทลงเร็ว
‘
ความผิดพลาดจากการใช้มาร์จิ้น ไปซื้อหุ้นสื่อสารตัวนึง intuch ประมูล 3G ผ่าน สัมปทานจากเสีย 25% ของรายได้ จะเหลือ 6% มองไม่เห็ฯว่าจะแพ้ยังไง เริ่มซื้อจาก 70 บาทใช้ มาร์จิ้นแบบเต็มที่ หุ้นintuchวิ่งจาก 70-100 แค่ปันผลก็คุ้มมาร์จิ้น
‘
17.แต่พอเล่นไปมองพื้นฐานบริษัทผิด รายได้ไม่โตเพราะ nonvoice โต แต่ voice ไม่โต บริษัทได้ค่าสัมปทาน 6% ต้องให้ลูกค้าย้ายไปใช้ ต้องใช้ค่าการตลาดเยอะมาก ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่ม กำไรลดลง หุ้นตก และใช้ margin ทำให้พอร์ทลงไปอีก
.. - ประเมินธุรกิจอย่าใส่สมติฐานดีเกินจริง มีคนทักท้วงแต่ไม่เชื่อ งบออกหลังจากที่หุ้นลงไปแล้ว ทำให้รู้ว่าเราคิดผิด
. - สรัทธากับงมงาย จะแยกอย่างไร ถ้าทำการบ้านมาเยอะไม่ใช่ความงมงาย แต่ระหว่างทางถ้าไม่มีแผนการณ์คือความงมงาย สภาพแวดล้อมที่ดี อ่านหนังสือเยอะๆ และอยู่กับคนที่ไม่ทำลายความฝันชาวบ้านจะเอื้อให้เราสรัทธาตัวเอง
.
20.ผ่านได้ด้วย การเปลี่ยชีวิตจากการซื้อหุ้นตัวอื่น คือหุ้น KTC (turnaround จากการเปลี่ยนผู้บริหาร ตั้งสำรองขาดทุนความผิดพลาดเดิม และหลังบ้านสะอาดแล้วธุรกิจโตต่อ)
.
21โอกาสอยู่รอบตัว คลิปโตมีโอกาสมากกว่าตลาดหุ้น แต่ก็มีความเสี่ยง สำหรับคนที่ศึกษาจริงจัง เหรียญี้ทำอะไรได้บ้าง มีกลไกอย่างไร
22 ต้องรู้ว่าเงินที่ได้มาจากเปิดร้านขายของหรือคาสิโน มีคนชวนเข้าคาสิโน แล้วได้เงิน แล้วในไม่กี่นาทีได้ 3-4 เท่า ถ้าคนทั่วไปจะรู้ว่า 3-4 เท่าที่ได้ ไม่ได้มาจาก skill อะไรเลย แบบนี้เข้าข่ายกลัวตกรถ
บทเรียนที่ได้จากอุปสรรค
.
23.มีจิตใจที่หนักแน่น อย่างตอนถือ warrant ตอนน้ำท่วม ไปถือหุ้นแม่ก็ได้ พอเรากลัวทำให้เรากลัวมากเกินไป เราไม่ได้จัดพอร์ทในทางเลือกที่ดีที่สุด
.
24.จากหุ้นสื่อสาร อย่าทำประมาณการการเงิน แบบมี bias โลกความจริง
.
25.การใช้เครื่องมือทางการเงิน ก่อนใช้เข้าใจ่สิ่งพวกนี้แค่ไหน ให้คิดถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุดให้ได้ก่อน ดูทางหนีทีไล่ไว้ก่อน
.
26 หลักการหา bog short รู้ธรรมชาติธุรกิจ ดูว่าผู้บริหารเก่งหรือเปล่า นักลงทุนต้องเป็นนักวิจัยด้วยตัวเองด้วย
มีข้อมูลมากพอจะพอจับจุดธุรกิจได้ ประเด็นสำคัญต้องระวังอะไร backtest พร้อมกับคู่แข่งไปหลายๆปี