เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมหุ้นไม่วิ่ง ? อะไรเป็นจุดสำคัญที่นักลงทุนควรมอง
COVID 19 ทำให้ CRC ขาดทุนแบบไม่เคยเป็นมาก่อน
กำไร CRC ในปี 2563 ลดลงถึง 92.4% และรายได้ ลดลง 12.8% โอ้โฮ ลดลงเยอะมากๆ ผมว่าเดาว่ามันเป็นการดลลงที่เยอะที่สุดเท่าที่บริษัทเป็นมา เท่าที่เราพอจะหาข้อมูลได้ ตั้งแต่บริษัท เข้าตลาดหุ้นก็ช่วง 4 ปีที่ผ่านมาครับ
ตัวเลขทางการเงินป่นปี้ แบบไม่มีอะไรมากั้น
ROE ROA ซึ่งบ่งบอกคุณภาพกิจการ ก็ดูจะแย่ไปเลย ในรอบ 9 เดือน ปีที่ผ่านมา ROE ติดลบ 2.2 เท่า ส่วน ROA เหลือ 0.3 เท่า
ความสามารถทำกำไร เราดูจาก Gross profit margin , EBIT Margin และ Net profit margin ลดลงหมดยกเว้น Gross profit margin แน่นอนต้นทุนสินค้าและบริการที่เอามาขายไม่ได้เพิ่มอะไร แต่ที่เป็นปัญหาคือ ยอดขายที่ลดลงมาก กับ ต้นทุนค้าใช้จ่ายและบริหาร ยังใกล้เคียงเดิม
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ไตรมาส 3Q64 ขากทุน 2,241 ล้านบาท
SSSG (ยอดขายต่อสาขาเดิม) ของบริษัทลดลง ตัว 23%YoY ตัวเลขมันบอกเราว่า ไม่ดีเอาซะเลย
ลงลึกเข้าไปในสาวนของธุรกิจกันครับ 1. รายได้ธุรกิจแฟชั่นลดลง 30%YoY
2.รายได้ธุรกิจฮาร์ดไลน์ทรงตัว YoY 3.รายได้ธุรกิจอาหารลดลง 6%YoY
4. รายได้จากการให้บริการเช่าลดลง 39%YoY
ยอดขายผ่าน Omni Channel ใน 3Q64 คิดเป็น 24% ของยอดขาย
รวม เพิ่มขึ้นจาก 20%
สิ่งสำคัญที่จะเป็นสัญญาณการฟื้นตัว 1.มาตรการคลายล็อกดาวน์ ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ทั้งในไทยและเวียดนาม ส่งผลให้สาขาสามารถเปิด
ให้บริการได้ตามปกติ โดยเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวในไทยและเวียดนาม ขณะที่อิตาลี
เปิดให้บริการตามปกติอยู่แล้วตั้งแต่ 3Q64
อย่างบ้านเรา ประกาศเปิดประเทศแล้ว รัฐบาลยังมีการปรับลด ผ่อนคลายอีกหลายมาตรการ เพื่อให้ประชาชนในประเทศในประเทศสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ รวมทั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล อาทิ การขยายเวลาเปิดห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้น การอนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ การเปิดร้านสะดวกซื้อได้ 24 ชั่วโมง กระทั่งยกเลิกควบคุมพื้นที่เข้มงวดสูงสุดและยกเลิกเคอร์ฟิว
2.เริ่มเห็นแวว การแพร่ระบาด เชื้อ COVID ที่รุนแรงน้อยลง หลายๆประเทศที่ประกาศให้ชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนโควิดครบเข้าประเทศได้ เช่น ออสเตรเลีย โปรตุเกส สเปนยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่กลางแจ้ง ส่วนเวียดนามกลับมาเปิดเรียนอีกครั้งในรอบ 1 ปี
คณะนักวิจัยของรัฐบาลสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ (4 ก.พ.2565) ว่า ผลการวิจัยกับลิงพบว่า การฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์สูตรเดิมของโมเดอร์นาหรือวัคซีนที่พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนโดยเฉพาะ (Omicron-specific booster) นั้น ให้ผลในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนที่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด นั่นหมายความว่า เราไม่จำเป็นต้องออกแบบวัคซีนใหม่เพื่อให้เป็นวัคซีนป้องกันเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน ( Cr แดเนียล ดูเอค นักวิจัยวัคซีนที่สถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐ ซึ่งร่วมเป็นผู้นำในการวิจัย )
3.งบQ4 64 น่าจับตามากๆ เราคาดCRC น่าจะฟื้นตัวได้จากข้อที่ 1 และอ้างอิงจากนัวิเคราะห์ คาดการณ์ว่าผลประกอบการ 4Q64 ฟื้นตัว QoQ ทั้งยอดขายและอัตรากำไร
กำไรสุทธิ 4Q64 ที่ 2,347 ล้านบาท เติบโต 122%YoY และพลิกจากขาดทุนสุทธิ
3Q64 ที่ 2,241 ล้านบาท
SSSG ของบริษัทในช่วง 4Q64 เติบโต 8%YoY เทียบกับ หดตัว 20%YoY ใน 4Q63
กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 27% สูงกว่า 4Q63 และ 3Q64 ที่ 26.4% และ 24% ตามลำดับ
4.CRC วางงบลงทุน 5ปี 1 แสนล้าน ตั้งเป้า market cap โต 2.5 เท่า !!
5.ราคาหุ้นยังไปไหนไม่ไกล
—————————————-
หมายเหตุ ข้อมูลนี้ไม่ได้เป็นการแนะนำหุ้นให้ซื้อขาย แต่เป็นเพียงนำเสนอข้อมูลเพื่อกรณีศึกษาเท่านั้นขอบคุณข้อมูลจาก มติชน , asia wealth
—————————————-
สนใจ เครื่องมือสแกนหุ้น / สอบถามรายละเอียด
add line https://bit.ly/3tgVS0A
หรือดูรายละเอียดได้ที่www.labhoonplus.com